ผมคือ Michael Zhang นักเดินทางชาวจีนที่หลงใหลการท่องเที่ยวและมีประสบการณ์ท่องเที่ยวระดับนานาชาติมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเชิงลึก บทความนี้ผมจะพาคุณไปรู้จักพระราชวังโปตาลา (Potala Palace) สัญลักษณ์ที่สะท้อนจิตวิญญาณแห่งวัฒนธรรมทิเบตอย่างแท้จริง เพื่อให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความหมายและคุณค่า
สารบัญบทความ
แนะนำพระราชวังโปตาลา
พระราชวังโปตาลาเป็นพระราชวังฤดูหนาวของดาไลลามะในทุกยุคสมัย และยังเป็นศูนย์กลางการปกครองแบบผสมผสานระหว่างศาสนากับการเมืองในประวัติศาสตร์ทิเบต นับตั้งแต่สมัยดาไลลามะองค์ที่ 5 พิธีกรรมสำคัญทั้งทางศาสนาและการเมืองต่างจัดขึ้นที่นี่ อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์บรรจุพระศพของดาไลลามะหลายองค์ พระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1994 ด้วยคุณค่าทางสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่โดดเด่น เป็นหน้าต่างสำคัญในการสะท้อนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของทิเบตสู่สายตาชาวโลก
- ที่อยู่: บนภูเขามาบูริ (Red Hill) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองลาซา เมืองหลวงเขตปกครองตนเองทิเบต ประเทศจีน
- เวลาเปิดทำการ:
- ฤดูท่องเที่ยว (พฤษภาคม–ตุลาคม): 09:00–17:30 (ปิดรับเข้าชมเวลา 15:40)
- ฤดูโลว์ซีซัน (พฤศจิกายน–เมษายน): 09:30–17:00 (ปิดรับเข้าชมเวลา 15:20)
- เวลาเที่ยวที่แนะนำ: 2–3 ชั่วโมง
- ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสม: สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่ดีที่สุดคือมิถุนายนถึงตุลาคม โดยเฉพาะกรกฎาคมและสิงหาคมที่นักท่องเที่ยวมาเยอะที่สุด ช่วงนี้อากาศในทิเบตอบอุ่นชุ่มชื้น เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว อีกทั้งฤดูฝนของลาซายังทำให้พืชพรรณเขียวชอุ่มและออกซิเจนในอากาศสูงขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้ความสูงได้ดี

แผนที่พระราชวังโปตาลา

ทำไมต้องไปเที่ยวพระราชวังโปตาลา?
พระราชวังโปตาลาไม่เพียงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวทิเบต แต่ยังเป็นจุดหมายในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ไม่อาจเทียบได้ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาพุทธทิเบตที่สำคัญที่สุด ที่นี่คือผลงานชิ้นเอกด้านสถาปัตยกรรม จิตรกรรม และศิลปะทางศาสนา และที่น่าประทับใจยิ่งไปกว่านั้น ด้านหลังของธนบัตรจีนมูลค่า 50 หยวนยังพิมพ์ภาพพระราชวังโปตาลาอันสง่างามอีกด้วย ซึ่งสะท้อนถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมและสถานะระดับชาติของที่นี่อย่างแท้จริง

สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปพระราชวังโปตาลา
สถานที่ท่องเที่ยวหลัก
พระราชวังสีขาว (White Palace)
พระราชวังสีขาวเป็นที่ประทับในฤดูหนาวของดาไลลามะ และยังเคยเป็นสถานที่ทำงานของรัฐบาลท้องถิ่นทิเบตในอดีต อาคารสูงเจ็ดชั้นนี้สง่างามอย่างยิ่ง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ชั้นสี่คือห้องโถงใหญ่ชื่อ “เจี่ยวนหมั่น” (措慶夏司西平措) ซึ่งเป็นห้องโถงใหญ่ที่สุดในพระราชวังสีขาว มีพื้นที่กว้างถึง 717 ตารางเมตร ที่นี่เคยใช้ประกอบพิธีขึ้นครองตำแหน่งของดาไลลามะ รวมถึงกิจกรรมทางการเมืองและศาสนาที่สำคัญ
- ชั้นห้าและหก: ใช้เป็นที่ทำงานและพำนักของผู้สำเร็จราชการ
- ชั้นเจ็ด: มีห้องพักฤดูหนาวของดาไลลามะสองชุด ซึ่งได้รับแสงแดดเพียงพอ จึงถูกเรียกว่า พระตำหนักตะวันออก และ พระตำหนักตะวันตก

พระราชวังสีแดง (Red Palace)
พระราชวังสีแดงมีลักษณะเป็นรูปเกือบสี่เหลี่ยมจัตุรัส สูงเก้าชั้น และถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของพระราชวังโปตาลา
- สี่ชั้นล่าง: เป็นกำแพงฐานที่แข็งแรงและมั่นคง
- ชั้นห้า: มีห้องโถงใหญ่ด้านตะวันตก (司西平措) ซึ่งเป็นหัวใจของพระราชวังสีแดง
- การออกแบบโดยรอบ: รอบลานกลางมีทั้งเจดีย์บรรจุพระศพและพระวิหาร เช่น พระวิหารโพธิจิตด้านตะวันออก พระวิหารถือมนต์ด้านใต้ วิหารลำดับวงศ์ตระกูลลามะด้านเหนือ และเจดีย์บรรจุพระศพดาไลลามะองค์ที่ห้าด้านตะวันตก
- เจดีย์บรรจุพระศพ: เป็นที่บรรจุพระศพของดาไลลามะองค์ที่ห้า ลักษณะเจดีย์ตั้งตรงทะลุขึ้นไปจนถึงหลังคาของพระราชวังสีแดง พระราชวังสีแดงสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1693 (ปีไก่น้ำตามปฏิทินทิเบต) และได้มีการสร้างศิลาจารึกไร้อักษรไว้หน้าพระราชวัง เป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของพระราชวังโปตาลา

เมืองหิมะ (Snow City)
พื้นที่ด้านล่างพระราชวังโปตาลาถูกเรียกว่า “เมืองหิมะ” ซึ่งในภาษาทิเบตหมายถึง “หิมะ” บริเวณนี้ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงจากทิศตะวันออก ใต้ และตะวันตก ตัวอาคารโดยรวมออกแบบเรียบง่าย แต่กลับช่วยขับเน้นความงดงามตระการตาของพระราชวังสีแดงและยอดทองบนภูเขาให้ยิ่งดูสง่างาม

สระหลงหวางถัน (Longwangtan)
สระหลงหวางถัน (ภาษาทิเบต: Zongjiao Lukang) ตั้งอยู่ด้านหลังภูเขาของพระราชวังโปตาลา สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 เดิมเกิดจากการขุดหินเพื่อก่อสร้างพระราชวังสีแดงจนกลายเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ ต่อมาได้มีการสร้างศาลาและอาคารโดยรอบ จนกลายเป็นทิวทัศน์อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ที่นี่เงียบสงบ ร่มรื่น และยังเป็นจุดยอดนิยมสำหรับถ่ายภาพเงาสะท้อนของพระราชวังโปตาลาบนผิวน้ำ

ยอดทอง (Golden Roofs)
ยอดทองของพระราชวังโปตาลาถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุด ตั้งอยู่บนยอดพระราชวังสีแดง ประกอบด้วยยอดทองเจ็ดยอด ทำจากทองสัมฤทธิ์ชุบทอง แต่ละยอดมีเหล็กแหลมสามง่ามรูปเปลวไฟอยู่ด้านบน ทำหน้าที่เป็นสายล่อฟ้าแบบดั้งเดิมของสถาปัตยกรรมทิเบต ซึ่งทั้งใช้ได้จริงและยังงดงามทางศิลปะ

ศิลาจารึกไร้อักษร (Stele without Inscription)
ในปี ค.ศ. 1693 (ปีไก่น้ำตามปฏิทินทิเบต) เมื่อพระราชวังสีแดงสร้างเสร็จ ได้มีการจัดพิธีฉลองครั้งใหญ่ และได้ตั้งศิลาจารึกไร้อักษรไว้ที่เชิงเขาพระราชวังโปตาลา เพื่อเป็นการรำลึกถึงการสร้างเสร็จของพระราชวัง เป็นเหมือนการสรรเสริญในความหมายทางประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่โดยไม่ต้องใช้ตัวอักษรใด ๆ

ลานเต่อหยางเซี่ย (Deyangshar Square)
ลานเต่อหยางเซี่ย หรือที่เรียกว่า “ลานด้านตะวันออก” ตั้งอยู่หน้าประตูใหญ่พระราชวังสีขาว เป็นลานกว้างขนาดใหญ่มีพื้นที่กว่า 1,300 ตารางเมตร
- การแบ่งโซนการใช้งาน: ด้านใต้ของลานมีอาคารใต้ดินสี่ชั้นสำหรับเก็บชา ด้านตะวันออกมีโรงเรียนเพื่อการศึกษา และทางเหนือกับใต้เป็นที่พักของเจ้าหน้าที่ การออกแบบลานที่กว้างขวางนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นพระราชวังโปตาลาทั้งหมด และสัมผัสถึงความยิ่งใหญ่อลังการได้เต็มตา

คู่มือบัตรเข้าชมพระราชวังโปตาลา
ข้อมูลบัตรเข้าชมฟรีช่วงฤดูหนาว
พระราชวังโปตาลามักจะมีการเปิดให้เข้าชมฟรีในช่วงฤดูหนาว โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม จนถึงวันที่ 15 มีนาคมของปีถัดไป สำหรับปี 2024–2025 ช่วงเวลาที่สามารถเข้าชมฟรีคือระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม 2024 ถึง 15 มีนาคม 2025 ทั้งนี้แม้จะเป็นบัตรฟรี นักท่องเที่ยวก็ยังคงต้องทำการจองล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์
เส้นทางการเข้าชมและราคาบัตรพระราชวังโปตาลา
พระราชวังโปตาลามีเส้นทางเข้าชม 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่ 1 และ เส้นทางที่ 2
- เส้นทางที่ 1: ครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวหลักในพระราชวังโปตาลา เป็นตัวเลือกยอดนิยมของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่
- เส้นทางที่ 2: เปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) เพื่อช่วยกระจายนักท่องเที่ยว หากไม่สามารถจองเส้นทางที่ 1 ได้ เส้นทางที่ 2 ถือเป็นตัวเลือกทดแทน
ราคาบัตรเข้าชมเส้นทางที่ 1
- ผู้ใหญ่:
- ฤดูท่องเที่ยว (พฤษภาคม–ตุลาคม): 200 หยวน/คน
- ฤดูโลว์ซีซัน (พฤศจิกายน–เมษายน): 100 หยวน/คน
- ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป):
- ฤดูท่องเที่ยว: 100 หยวน/คน
- ฤดูโลว์ซีซัน: 50 หยวน/คน
- เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี หรือสูงไม่เกิน 1.2 เมตร: ฟรี
ราคาบัตรเข้าชมเส้นทางที่ 2
- ผู้ใหญ่: 100 หยวน/คน
- ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป): 50 หยวน/คน
- เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี หรือสูงไม่เกิน 1.2 เมตร: ฟรี
เวลาเปิดทำการ
- ฤดูท่องเที่ยว (พฤษภาคม–ตุลาคม): 09:00–17:30 (หยุดรับเข้าชมเวลา 15:40)
- ฤดูโลว์ซีซัน (พฤศจิกายน–เมษายน): 09:30–17:00 (หยุดรับเข้าชมเวลา 15:20)
วิธีการซื้อตั๋วเข้าชม
- ซื้อตั๋วออนไลน์: สามารถจองได้ผ่านบัญชีทางการของพระราชวังโปตาลาบน WeChat ซึ่งมีทั้งภาษา จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น และเกาหลี อำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
- ซื้อตั๋วออฟไลน์: พระราชวังโปตาลาไม่มีการจำหน่ายตั๋วสำหรับวันเดียวกัน ทุกตั๋วต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งวัน และใช้ระบบยืนยันตัวตนจริง แนะนำให้วางแผนการเดินทางล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องบัตรเข้าชม

บริการไกด์นำเที่ยวพระราชวังโปตาลา
ก่อนการเยี่ยมชมพระราชวังโปตาลา แนะนำให้คุณจองไกด์มืออาชีพล่วงหน้า เนื่องจากพระราชวังแห่งนี้เต็มไปด้วยรายละเอียดเชิงสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมทางศาสนาที่ลึกซึ้ง ไกด์จะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องราวเบื้องหลังแต่ละสถานที่ รวมถึงขนบธรรมเนียมของพุทธศาสนาทิเบตและความหมายเชิงสัญลักษณ์ในการออกแบบ เมื่อมีคำอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญ การเยี่ยมชมของคุณจะเต็มไปด้วยคุณค่าและความประทับใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เส้นทางแนะนำสำหรับการเข้าชมพระราชวังโปตาลา
เส้นทางที่ 1: การท่องเที่ยวเชิงลึก
เส้นทางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้เชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ศาสนา และสถาปัตยกรรมของพระราชวังโปตาลา
- Snow City 8 วิว: กลุ่มอาคารคลาสสิกเชิงเขาพระราชวังโปตาลา แสดงเอกลักษณ์ของกำแพงและพระราชวัง
- ลานเต่อหยางเซี่ย: ตั้งอยู่หน้าพระราชวังสีขาว เป็นจุดที่ดีที่สุดในการชมวิวแบบพาโนรามาของพระราชวังโปตาลา
- ระเบียงพระราชวังสีขาว: เส้นทางสำคัญสู่พระราชวังด้านใน ให้บรรยากาศความศักดิ์สิทธิ์
- ดาดฟ้าพระราชวังสีขาว: เคยเป็นที่ประทับของดาไลลามะในฤดูหนาว แสดงถึงการผสมผสานระหว่างอำนาจและศรัทธา
- พระตำหนักตะวันออก: ห้องโถงหลักของพระราชวังสีขาว ใช้จัดพิธีกรรมสำคัญทั้งทางศาสนาและการเมือง
- พระวิหารเจียงปา: พระวิหารที่ประดิษฐานพระศรีอาริยเมตไตรย ภายในตกแต่งอย่างหรูหราและมีบรรยากาศทางพุทธศาสนาเข้มข้น
- สถานที่อื่น ๆ: เส้นทางนี้ครอบคลุมทั้งหมด 16 จุดสำคัญ รวมถึงพระวิหารและเจดีย์บรรจุพระศพหลายแห่ง ช่วยให้นักท่องเที่ยวเข้าใจลึกซึ้งถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของพระราชวังโปตาลา
เส้นทางที่ 2: การท่องเที่ยวแบบไฮไลต์
เส้นทางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัดหรืออยากเที่ยวแบบสบาย ๆ
- Snow City 8 วิว: เช่นเดียวกับเส้นทางที่ 1 แสดงกลุ่มอาคารรอบพระราชวังโปตาลา
- ลานเต่อหยางเซี่ย: จุดชมวิวและถ่ายภาพมุมกว้างที่สวยที่สุด
- ระเบียงพระราชวังสีขาว: เส้นทางหลักสู่พระราชวังด้านใน
- พระวิหารตะวันออก: หนึ่งในพระวิหารสำคัญของพระราชวังโปตาลา ตกแต่งอย่างงดงามและเปี่ยมด้วยบรรยากาศศาสนา
- นิทรรศการเสลี่ยง: จัดแสดงเสลี่ยงที่ดาไลลามะเคยใช้ รวมถึงโบราณวัตถุอันทรงคุณค่า
- สถานที่อื่น ๆ: รวมทั้งหมด 8 จุด ครอบคลุมพื้นที่สำคัญของพระราชวังโปตาลา เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบเร่งรัดและเก็บภาพความทรงจำ
วิธีเดินทางจากตัวเมืองลาซาไปยังพระราชวังโปตาลา
รถประจำทาง
ในเมืองลาซามีหลายเส้นทางรถบัสที่สามารถไปถึงพระราชวังโปตาลาได้ ค่าโดยสารถูกและมีรอบถี่ จึงเป็นวิธีเดินทางที่นิยม
- เส้นทางหลัก:
- รถบัสสาย 1: วิ่งตรงไปถึงเชิงเขาพระราชวังโปตาลา
- รถบัสสาย 2: ผ่านถนนสายหลักของเมือง และใกล้พระราชวังโปตาลา
- รถบัสสาย 6: ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่ง รวมถึงพระราชวังโปตาลา
- ค่าโดยสาร: ประมาณ 1–2 หยวนต่อเที่ยว ถือว่าประหยัดมาก
แท็กซี่/รถเรียกผ่านแอป
- การเดินทางด้วยรถแท็กซี่จากตัวเมืองลาซาไปพระราชวังโปตาลาใช้เวลาประมาณ 10–20 นาที ขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้น
- ค่าโดยสารช่วงกลางวันอยู่ที่ประมาณ 15–30 หยวน ซึ่งถือว่าเหมาะสม
ร้านอาหารแนะนำใกล้พระราชวังโปตาลา
Pingcuo Kangtsang · ร้านบุฟเฟต์วากิว · ร้านอาหารวิวพระราชวัง
- ที่อยู่: ชั้น 6 ของโรงแรม Pingcuo Kangtsang View Hotel เลขที่ 31 ถนน Duosenge เขต Chengguan เมืองลาซา
- เหตุผลที่แนะนำ: ร้านนี้เป็นทั้งโรงแรมและร้านอาหาร บนชั้น 6 มีบริการชาบูวากิวรสเลิศ พร้อมวิวพระราชวังโปตาลาที่งดงาม นักท่องเที่ยวหลายคนไม่รู้จักที่นี่มาก่อน แต่เมื่อได้มาพบกลับกลายเป็นจุดลับสุดพิเศษสำหรับการลิ้มลองอาหารและชมวิว

คำถามที่พบบ่อย
เนื่องจากภายในพระราชวังโปตาลามีบันไดจำนวนมากและพื้นที่ค่อนข้างจำกัด จึงไม่แนะนำให้นำรถเข็นเด็กเข้าไป อย่างไรก็ตาม ที่ทางเข้ามีบริการฝากรถเข็นเด็กให้เลือกใช้
พระราชวังโปตาลามีบริการรับฝากสัมภาระ แต่มีพื้นที่จำกัด จึงควรเตรียมสัมภาระให้น้อยที่สุดเพื่อความสะดวกในการเข้าชม หากมีกระเป๋ามาก แนะนำให้ฝากไว้ที่โรงแรมหรือจุดฝากสัมภาระรอบ ๆ พระราชวังโปตาลาแทน
Comment (0)