ชิงไห่เป็นมณฑลที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ครอบคลุมพื้นที่ส่วนหนึ่งของที่ราบสูงทิเบต และเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำเหลือง จุดเด่นของที่นี่คือทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ ไร้ขอบเขต อากาศบริสุทธิ์ และวัฒนธรรมชนกลุ่มน้อยที่หลากหลาย โดยเฉพาะชาวทิเบต ชาวฮุย และชาวมุสลิม
เมืองหลวงคือ “ซีหนิง” (Xining) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและจุดเริ่มต้นสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางต่อไปยังทิเบตหรือซินเจียง ที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่แสวงหาธรรมชาติแท้จริง ไม่ใช่แค่เพียงท่องเที่ยว แต่เพื่อ “สัมผัส” และ “เข้าใจ” พลังของภูมิประเทศและวิถีชีวิตดั้งเดิมอย่างแท้จริง
ชิงไห่แบ่งออกเป็น 2 เมืองหลักระดับจังหวัด (ซีหนิง, ไฮตง) และ 6 เขตปกครองตนเอง โดยแต่ละเขตมีภูมิทัศน์และเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนกัน หากคุณกำลังมองหาเส้นทางแสวงบุญ ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ หรือประสบการณ์ท้องถิ่นแบบลึกซึ้ง—ที่นี่ตอบโจทย์ทุกข้อ
เมืองอย่างซีหนิงและไฮตงมีระบบคมนาคมและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในขณะที่เขตอื่น ๆ เช่น กัวลั่ว, อวี้ซู่, หวงหนาน, ไห่หนาน, ไห่เป่ย และไห่ซี เน้นธรรมชาติบริสุทธิ์ วิถีชีวิตชาวทิเบต และศาสนาพุทธแบบวัชรยาน
เมืองหลวงของมณฑล ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอย่างวัดถาเอ่อร์ (塔爾寺), สุเหร่าใหญ่ตงกวน และบ้านของแม่ทัพหม่า ผู้มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์จีนสมัยใหม่
ตั้งอยู่ทางตอนบนของแม่น้ำเหลือง มีประชากรหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งชาวฮุยและชาวถู่ เป็นทางผ่านสำคัญไปยังกานซู่และหนิงเซี่ย
พื้นที่ลึกในที่ราบสูงทิเบต ที่มีทั้งแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำใหญ่ (สามแม่น้ำสำคัญ) และเขตคุ้มครองสัตว์ป่าโคเคอซีลี (可可西里)
รู้จักกันในชื่อ “บ้านแห่งศิลปะเร่อกง” มีวัดหลงอู่ และวัดอูถุน ที่แสดงถึงการผสมผสานของศิลปะกับศาสนาได้อย่างลงตัว
มีภูมิประเทศคล้ายกับดาวอังคาร ได้แก่ ทะเลสาบเกลือฉาเค่อ (茶卡盐湖), ที่ราบช่าเต่ามู่ และพื้นที่แห้งแล้งแบบทะเลทราย
ชิงไห่เต็มไปด้วยสิ่งที่นักเดินทางสายธรรมชาติไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบสีน้ำเงินใส หุบเขาเงียบสงบ ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ หรือวัดโบราณที่ยังคงใช้งานจริง ทุกก้าวของการเดินทางจะทำให้คุณใกล้ชิดกับความสงบภายในอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในจีน มีน้ำสีฟ้าใสตัดกับทุ่งดอกไม้ในฤดูร้อน เหมาะสำหรับขี่จักรยานรอบทะเลสาบ
ได้รับฉายาว่า “กระจกสะท้อนฟ้า” พื้นผิวสะท้อนท้องฟ้าได้อย่างสวยงามเหมาะกับการถ่ายภาพและพักผ่อน
หนึ่งในวัดที่สำคัญที่สุดของศาสนาพุทธแบบทิเบต เป็นบ้านเกิดของพระศาสดาแห่งนิกายเกลุก (พระสังฆราชจงคาปา)
ดอกไม้บานเต็มที่ในเดือนกรกฎาคม สร้างภาพวิวพาโนรามาแบบที่คุณจะไม่มีวันลืม
มรดกโลกทางธรรมชาติ เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เช่น แอนทิโลปทิเบต
มีความสำคัญทางจิตวิญญาณและเป็นสถานที่ที่คนชอบเดินป่าใฝ่ฝันจะไปเยือน
สถานที่ที่แรงบันดาลใจของเพลง “ในที่ห่างไกล” ถือกำเนิดขึ้น ที่นี่มีวิวพาโนรามา วิถียูนนาน-ทิเบต และฝูงสัตว์ท้องถิ่น
อาหารชิงไห่เป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมทิเบต อิสลาม และจีนดั้งเดิม โดยเน้นเนื้อวัว-เนื้อแกะ ผลิตภัณฑ์นมสด และเส้นก๋วยเตี๋ยว ทำให้อาหารมีรสชาติเข้มข้น เค็มนิด ๆ และเผ็ดน้อย ๆ เหมาะกับอากาศเย็นและแห้งของที่ราบสูง
แป้งข้าวบาร์เลย์คั่ว ผสมกับชานมเนย (Butter Tea) เป็นอาหารหลักของชาวทิเบต
อาหารท้องถิ่นยอดนิยม เคี้ยวมัน เค็มเล็กน้อย อุดมไปด้วยโปรตีน
ก๋วยเตี๋ยวท้องถิ่นของซีหนิง เสิร์ฟพร้อมลำไส้แกะตุ๋นในน้ำซุปหอมเข้มข้น
เนื้อแน่น ข้น รสเปรี้ยวอ่อน ๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำตาลหรือแยม
เป็นธรรมเนียมของชาวทิเบต เนื้อแกะต้มแล้วฉีกกินด้วยมือแบบบ้าน ๆ
เมนูยอดนิยมช่วงหน้าร้อน เส้นนุ่มหนึบปรุงด้วยกระเทียม น้ำส้มสายชู และน้ำมันพริก
ชิงไห่มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 720,000 ตารางกิโลเมตร ถือว่าใหญ่เป็นอันดับ 4 ของจีน และมีประชากรราว 5.8 ล้านคน:
หมายเหตุ: การเดินทางระหว่างเมืองในชิงไห่ต้องวางแผนล่วงหน้าเพราะระยะทางไกล
ชิงไห่มีภูมิอากาศแบบที่ราบสูง กลางวันแดดแรง กลางคืนหนาว อากาศแห้งมาก:
ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวที่สุดคือ พ.ค. – ต.ค. โดยเฉพาะ ก.ค.–ส.ค.
รหัสประจำเมืองและเบอร์โทรหลักของแต่ละพื้นที่ในชิงไห่: