มณฑลเหอหนาน (河南省) ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศจีน และถือเป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดอารยธรรมจีนที่เก่าแก่ที่สุด เมืองเอกคือเจิ้งโจว (郑州) ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมของจีน ส่วนลั่วหยาง (洛阳) เคยเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิจีนถึง 13 ราชวงศ์ ขณะเดียวกัน เมืองอื่นๆ อย่างไคเฟิง (开封), อันหยาง (安阳) และซางชิว (商丘) ก็มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งไม่แพ้กัน
ภูมิประเทศของเหอหนานหลากหลาย ตั้งแต่ภูเขาไท่หังทางเหนือ ภูเขาฝูหนิวทางใต้ ไปจนถึงที่ราบกว้างใหญ่ในตอนกลาง แม่น้ำเหลืองไหลผ่านทั้งมณฑล ทำให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางเกษตรกรรมและการค้าในสมัยโบราณ ปัจจุบัน เหอหนานยังคงเปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ ทั้งด้านมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยวเชิงลึก
มณฑลเหอหนานแบ่งออกเป็น 17 เมืองระดับจังหวัด ซึ่งแต่ละเมืองมีเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ต่างกัน ไม่ว่าคุณจะสนใจเยี่ยมชมเมืองหลวงเก่า ไต่เขา ชมธรรมชาติ หรือสัมผัสชีวิตเมืองสมัยใหม่ เหอหนานก็มีตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับทุกสไตล์การท่องเที่ยว
เมืองยอดนิยม เช่น เจิ้งโจว ลั่วหยาง ไคเฟิง และอันหยาง เป็นจุดหมายหลักสำหรับนักท่องเที่ยว แต่เมืองอื่นๆ อย่างหนานหยาง ซินเซียง ซินหยาง ซางชิว ซวีชาง เจียวจั่ว และอีกหลายเมือง ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดประสบการณ์ใหม่
เมืองเอกของมณฑล เป็นศูนย์กลางระบบขนส่งทั้งทางรถไฟ ถนน และอากาศ จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือแม่น้ำเหลือง และวัดเส้าหลินซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ในตัวเมืองมีแลนด์มาร์กอย่างจัตุรัสเอ่อชี และพิพิธภัณฑ์เจิ้งโจว
เมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นเมืองหลวงถึง 13 ราชวงศ์ ได้ชื่อว่า “เมืองแห่งดอกโบตั๋น” มีสถานที่สำคัญ เช่น ถ้ำหินหลงเหมิน วัดไป๋หม่าซื่อ และสุสานกวนอู เดือนเมษายนเป็นช่วงเทศกาลชมดอกโบตั๋นที่มีชื่อเสียง
เมืองหลวงในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมและกลิ่นอายโบราณ สถานที่ท่องเที่ยว ได้แก่ สวนชิงหมิงซั่งเหอ เมืองจำลองราชวงศ์ซ่ง ศาลาว่าการไคเฟิง และวัดต้าซยางกั๋ว
เมืองที่ค้นพบอักษรภาพบนกระดูก (อักษรเจี่ยกู่เหวิน) เป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาประวัติศาสตร์จีน มีแหล่งโบราณคดีอิ้นซวีเป็นมรดกโลก รวมถึงเจดีย์เหวินเฟิง และเมืองโบราณโหยวหลี่
เมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมยุคสามก๊กและศาสตร์แพทย์จีนโบราณ สถานที่แนะนำได้แก่ ศาลเจ้าจางจงจิ่ง ศาลขงเบ้ง และภูเขาฝูหนิว
เหอหนานอุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวระดับมรดกโลก ไม่ว่าจะเป็นศิลปะพุทธในถ้ำหิน หรือวัฒนธรรมศิลปะการต่อสู้ที่วัดเส้าหลิน ทุกจุดหมายล้วนสะท้อนจิตวิญญาณของอารยธรรมจีน และมอบประสบการณ์ที่ลึกซึ้งให้กับผู้มาเยือน
มรดกโลกที่รวบรวมงานแกะสลักพระพุทธรูปบนหน้าผาจากยุคราชวงศ์ถัง งานศิลป์ที่ทั้งยิ่งใหญ่และประณีต เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์และศิลปะ
ตั้งอยู่เชิงเขาซงซาน เป็นศูนย์กลางนิกายเซนของพุทธศาสนา และต้นกำเนิดของกังฟูจีน นักท่องเที่ยวสามารถชมการแสดงศิลปะการต่อสู้สด และเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมโบราณ
สถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ที่ขึ้นชื่อเรื่องภูเขาหินสีแดง น้ำตก และหน้าผา เหมาะสำหรับสายแอดเวนเจอร์และคนรักธรรมชาติ
แหล่งโบราณคดีของราชวงศ์ซางที่มีการค้นพบอักษรโบราณบนกระดูกสัตว์ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญระดับโลก
สวนจำลองจากภาพวาดโบราณ “ชิงหมิงซั่งเหอตู้” ถ่ายทอดชีวิตเมืองในสมัยซ่งด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่เสมือนจริง
ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เหมาะกับการหลีกหนีความร้อนในฤดูร้อน ยังมีแหล่งฟอสซิลไข่ไดโนเสาร์ที่น่าสนใจด้วย
อาหารเหอหนาน (豫菜) เป็นหนึ่งในสไตล์การทำอาหารที่เก่าแก่ของจีน เน้นการต้มตุ๋น ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น และรสชาติที่เข้มข้น
รสชาติส่วนใหญ่จะออกเค็มและกลมกล่อม มีเมนูน้ำซุปและตุ๋นที่โดดเด่น เหมาะมากในฤดูหนาว อีกทั้งยังมีของกินเล่นในตลาดเช้าและกลางคืนที่ไม่ควรพลาด
เส้นทำมือที่ใส่ในน้ำซุปเนื้อแกะหรือเนื้อวัว ปรุงรวมกับวุ้นเส้น สาหร่าย และฟองเต้าหู้ รสชาติเข้มข้นถึงใจ
ชุดอาหารโบราณ 24 เมนู ที่แต่ละจานมาในรูปแบบซุป จุดเด่นคือการจัดลำดับรสชาติและความกลมกล่อมของแต่ละเมนู
ไก่ทั้งตัวที่ตุ๋นและรมควันด้วยไม้ หอมกรุ่น หนังกรอบ เนื้อในนุ่มชุ่มฉ่ำ
เมนูซุปแบบเข้มข้น รสเผ็ดหอมด้วยพริกไทยและพริกจีน มักใส่เนื้อ เต้าหู้ และวุ้นเส้น เหมาะสำหรับมื้อเช้า
ได้ฉายาว่า “เนื้อมังกรบนพื้นดิน” เนื้อแน่น ไขมันน้อย กินกับขนมปังแบบจีนคือที่สุด
เมนูประจำท้องถิ่นที่ใช้เนื้อวัวพื้นเมืองตุ๋นจนเปื่อย กินคู่กับแป้งทอดหรือเส้นก๋วยเตี๋ยว
พื้นที่รวม: ประมาณ 167,000 ตารางกิโลเมตร
ประชากร: ประมาณ 98.5 ล้านคน (ข้อมูลปี 2023)
เหอหนานมีภูมิอากาศแบบมรสุมเขตอบอุ่น 4 ฤดูชัดเจน
หน้าร้อนร้อนชื้น หน้าหนาวแห้งและหนาวเย็น
ฤดูที่เหมาะที่สุดสำหรับท่องเที่ยว: ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.–พ.ค.) และฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.–พ.ย.)