ลัทธิขงจื๊อมีจุดเริ่มต้นจากขงจื๊อ (551–479 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ซึ่งเป็นนักปรัชญาผู้ยิ่งใหญ่และนักการศึกษาในยุคจีนโบราณ ขงจื๊อเกิดที่ประเทศรัฐหลู และในช่วงเวลานั้นสังคมเต็มไปด้วยความไม่สงบทางการเมืองและสังคม ความยุ่งเหยิงนี้มีอิทธิพลต่อการพัฒนาความคิดของเขา และเขามุ่งหวังที่จะฟื้นฟูระเบียบทางศีลธรรมในสังคม ขงจื๊อได้สอนเกี่ยวกับศีลธรรม การเมือง และสังคม ซึ่งท้ายที่สุดได้ถูกบันทึกลงในหนังสือชื่อว่า “หลุนอี้” หรือ “บทสนทนาของขงจื๊อ” ซึ่งกลายเป็นต้นแบบของหลักคำสอนในลัทธิขงจื๊อ
ลัทธิขงจื๊อมีคุณค่าหลักห้าประการที่เป็นหัวใจของหลักคำสอน ได้แก่ (1) ความเมตตา (仁), (2) ความยุติธรรม (義), (3) การเคารพกฎเกณฑ์ (禮), (4) ปัญญา (智) และ (5) ความเชื่อมั่น (信) โดยหลักการเหล่านี้มุ่งเน้นการสร้างสังคมที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเน้นการเจริญเติบโตทางศีลธรรมของบุคคลแต่ละคน:
คุณค่าทั้งห้านี้เป็นรากฐานของ ลัทธิขงจื๊อ และ ปรัชญาขงจื๊อ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทางศีลธรรมของบุคคลและการสร้างสังคมที่มีความสมดุล
“หลุนอี้” หรือ “บทสนทนาของขงจื๊อ” เป็นหนังสือที่สำคัญที่สุดในลัทธิขงจื๊อ โดยบรรจุคำพูดและบทเรียนที่สืบทอดจากขงจื๊อและศิษย์ของเขา หนังสือเล่มนี้ครอบคลุมทั้งด้านจริยธรรม การเมือง และการศึกษา โดยเฉพาะการเน้นความสำคัญของความเคารพพ่อแม่ การรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม และการพัฒนาคุณธรรมในตัวบุคคล คำสอนใน “หลุนอี้” มีความกระชับและมีพลัง ส่งผลให้หนังสือนี้ยังคงเป็นแนวทางในด้านจริยธรรมจนถึงปัจจุบัน
นอกจาก “หลุนอี้” ยังมีหนังสืออื่นๆ ที่มีบทบาทสำคัญในลัทธิขงจื๊อ
ลัทธิขงจื๊อมีบทบาทสำคัญในการสร้างระบบการเมืองและกฎหมายของจีนในยุคราชวงศ์ฮั่น ระบบข้าราชการในจีนที่ใช้หลักการของขงจื๊อในการคัดเลือกผู้ทำงานในรัฐบาล ถือเป็นการนำเอาความสามารถและคุณธรรมมาประเมินการคัดเลือกเจ้าหน้าที่ราชการ หลักการ “การเคารพกฎเกณฑ์ (禮)” และ “ความยุติธรรม (義)” ที่ขงจื๊อเสนอมีอิทธิพลอย่างมากต่อโครงสร้างสังคมจีน โดยเน้นความเคารพในความเป็นระเบียบและครอบครัว
ลัทธิขงจื๊อไม่เพียงแค่มีอิทธิพลในจีนเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกด้วย เช่น เกาหลี ที่ลัทธิขงจื๊อมีผลกระทบต่อระบบการเมืองและโครงสร้างครอบครัว รวมถึงการศึกษาในประเทศนั้นๆ ใน ญี่ปุ่น ลัทธิขงจื๊อมีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายและลูกน้องในสังคมญี่ปุ่น และใน เวียดนาม ลัทธิขงจื๊อมีบทบาทสำคัญในแง่ของการศึกษาและการสร้างระบบการปกครอง
การแลกเปลี่ยนระหว่างลัทธิขงจื๊อกับปรัชญาตะวันตกมีการพัฒนามาอย่างยาวนาน ลัทธิขงจื๊อเน้นความสำคัญของการมีชีวิตร่วมกันในสังคม และการเน้นถึงคุณธรรมที่สำคัญ แต่ปรัชญาตะวันตกกลับเน้นในเรื่องเสรีภาพและสิทธิของบุคคล ทั้งสองแนวคิดมีความสนใจร่วมกันในเรื่องของจริยธรรมและความรับผิดชอบทางสังคม ปัจจุบันนักวิชาการยังคงสนใจในลัทธิขงจื๊อ โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับจริยธรรมและการเป็นผู้นำ
ในยุคซ่ง (960–1279) ลัทธิขงจื๊อใหม่ (นิวคอนฟูเชียนิสม์) ได้เกิดขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงการตอบสนองต่อการมีอิทธิพลของพุทธศาสนาและลัทธิเต๋า นักคิดเช่น จูซี (朱熹) และหวังหยางหมิง (王阳明) ได้พัฒนาหลักการทางจริยธรรมของขงจื๊อโดยนำแนวคิดด้านเมตตากรุณาและอุดมการณ์เชิงปรัชญามาผสมผสาน
แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในโลกสมัยใหม่ ลัทธิขงจื๊อยังคงมีความเกี่ยวข้องกับปัญหาทางสังคม เช่น การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความยุติธรรมทางสังคม หลักการ ความเมตตา (仁) และ การเคารพกฎเกณฑ์ (禮) ยังคงเป็นแนวทางในการส่งเสริมความรับผิดชอบทางสังคมและการปกป้องโลกแห่งธรรมชาติ การนำหลักการขงจื๊อมาใช้ในปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสังคมที่ยั่งยืนและสมดุล
ค้นพบประเพณีและการปฏิบัติทางวัฒนธรรมจีนที่อุดมสมบูรณ์ผ่านเทศกาล, ประเพณี, และประวัติศาสตร์