ผมคือ Michael Zhang นักเดินทางชาวจีนที่หลงใหลในการท่องเที่ยว และมีประสบการณ์เดินทางระดับนานาชาติมาอย่างยาวนาน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมได้ไปเยือนมรดกโลกทางวัฒนธรรมและจุดหมายปลายทางอันเป็นเอกลักษณ์นับไม่ถ้วน ทำให้ได้สั่งสมมุมมองมากมายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเชิงลึก สำหรับครั้งนี้ ผมอยากพาคุณไปรู้จักกับ วัดพระหยก (玉佛寺 – Yufo Temple) ในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเสมือนโอเอซิสแห่งพุทธศาสนาที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองใหญ่ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ หรือเป็นผู้แสวงหาความสงบในจิตใจ ผมมั่นใจว่าบทความนี้จะช่วยมอบทั้งแรงบันดาลใจและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับการท่องเที่ยวของคุณ



แนะนำวัดพระหยก

วัดพระหยกได้รับการตั้งชื่อจากพระพุทธรูปหยกที่ประดิษฐานอยู่ภายใน วัดแห่งนี้สังกัดนิกายเซน (臨済宗 – หลินจี้) ที่มุ่งเน้นการปฏิบัติสมาธิและสติ จึงถูกเรียกว่า วัดพระหยกเซน อีกด้วย ที่นี่ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนมักมาขอพรเรื่องความรักและความสุข วัดพระหยกยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสิบแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเซี่ยงไฮ้ แม้ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยความคึกคัก แต่กลับมีบรรยากาศเงียบสงบ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ดินแดนบริสุทธิ์ท่ามกลางย่านการค้า”

  • ที่อยู่: No.170 ถนน Anyuan เขต Putuo เซี่ยงไฮ้ (Apple Maps / Amap)
  • เวลาเปิด: ทุกวัน 08:00–16:30, ในวันพระใหญ่และเทศกาลพุทธศาสนาสำคัญ เปิดตั้งแต่ 07:00–16:30
  • เวลาเหมาะสมในการเที่ยว: 1–2 ชั่วโมง
  • ฤดูกาลท่องเที่ยว: มาได้ตลอดทั้งปี
  • ค่าเข้าชม: เข้าฟรี แต่หากต้องการเข้าชมพระหยก ต้องชำระ 10 หยวน/คน ไม่ต้องจองล่วงหน้า
ทางเข้า วัดพระหยก พร้อมประตูสีแดงสามบาน และป้ายหลัก

แผนที่วัดพระหยก

แผนที่วัดพระหยก แสดงศาลาหลักและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้มาเยือน

ทำไมคุณต้องไปวัดพระหยกสักครั้ง?

ประวัติศาสตร์และคุณค่าทางวัฒนธรรมของวัดพระหยก

วัดพระหยกถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง โดยพระภิกษุชื่อ “ฮุ่ยเกิน” ที่อัญเชิญพระพุทธรูปหยกกลับมาจากอินเดีย พระพุทธรูปทำจากหยกแกะสลักชิ้นเดียว วัดแห่งนี้ถูกออกแบบอย่างประณีต โดยมีแนวอาคารตั้งเรียงตามแกนกลางตั้งแต่กำแพงบังตา ศาลาเทวโลก (天王殿) ศาลาเจ้าแม่กวนอิม ไปจนถึงพระอุโบสถใหญ่ (大雄宝殿) ด้านข้างยังมีศาลาต่าง ๆ เช่น ศาลาเจ้าเมือง ศาลาพระมหากรุณา และศาลาสามพระโพธิสัตว์ การจัดวางอาคารดูลงตัวราวกับเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะทางพุทธศาสนา สิ่งล้ำค่าที่สุดคือพระพุทธรูปหยกปางมารวิชัยสูง 1.92 เมตร ประดับด้วยทองคำเปลวและอัญมณีหลากชนิด ส่องประกายเจิดจรัสจนทำให้ผู้มาเยือนประทับใจไม่รู้ลืม

บรรยากาศสงบและประสบการณ์ทางศาสนา

ทันทีที่ก้าวเข้าสู่วัดพระหยก สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความสงบและความศักดิ์สิทธิ์ ทุกอาคารและพระพุทธรูปต่างทำให้ผู้คนรู้สึกเคารพและสงบเสงี่ยม โดยเฉพาะเมื่อยืนอยู่หน้าพระอุโบสถใหญ่แล้วมองไปยังพระพุทธรูปที่เปล่งประกายทอง ก็เหมือนกำลังรับพลังจากวัฒนธรรมโบราณที่สืบต่อมา นอกจากจะเป็นสถานที่ทางศาสนาแล้ว วัดแห่งนี้ยังเป็นที่พักใจ ผู้คนจำนวนมากนิยมมาคัดลอกพระสูตร เพื่อหาความสงบและสมาธิในจิตใจ


กิจกรรมที่น่าสนใจในวัดพระหยก

ไฮไลต์สำคัญของวัดพระหยก

ศาลาเทวโลก (天王殿)

ศาลาเทวโลกเป็นอาคารแรกของวัดพระหยก โครงสร้างยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ ภายในประดิษฐานพระสังกัจจายน์ที่มีรอยยิ้มเมตตา สื่อถึงความสุขและความเมตตา เบื้องหลังพระองค์คือพระเวทโพธิสัตว์ผู้ปกปักรักษาวัด ส่วนด้านข้างมีสี่ท้าวจตุโลกบาลคอยปกปักรักษาโลกทั้งสี่ทิศ สื่อถึงความร่มเย็นและความสงบสุขของบ้านเมือง ศาลาแห่งนี้จึงเป็นด่านแรกที่ต้อนรับผู้มาเยือน เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งพุทธศาสนา

หอพระโพธิสัตว์สี่ทิศ วัดพระหยก ประดิษฐานพระศรีอาริย์ทองคำ

พระอุโบสถใหญ่ (大雄宝殿)

พระอุโบสถใหญ่ถือเป็นหัวใจของวัดพระหยก และยังเป็นหนึ่งในอาคารที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์ล้อมรอบด้วยพระอรหันต์ทั้ง 18 องค์ ซึ่งสะท้อนถึงความลึกซึ้งของวัฒนธรรมพุทธศาสนา ตัวอาคารได้รับการตกแต่งอย่างประณีต ทั้งเสาแกะสลักและเพดานที่งดงาม แสดงให้เห็นถึงศิลปะการก่อสร้างแบบพุทธอย่างแท้จริง สถานที่แห่งนี้ยังเป็นจุดสำคัญในการสักการะและขอพร นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างรู้สึกถึงพลังทางจิตวิญญาณและเสน่ห์ของวัฒนธรรมที่นี่

หอพระมหาสงฆ์ วัดพระหยก สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม

ศาลาพระนอน (臥佛殿)

ศาลาพระนอนตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของวัด มีพระพุทธรูปปางปรินิพพานที่แกะสลักจากหยกยาวประมาณ 1 เมตร รายละเอียดประณีต พระพักตร์สงบเสงี่ยม แสดงถึงความสงบและการปล่อยวางเมื่อพระพุทธเจ้าทรงเสด็จเข้าสู่นิพพาน บรรยากาศภายในเงียบสงัด เหมาะแก่การนั่งสมาธิและพิจารณาธรรม นอกจากนี้ยังเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอีกด้วย

พระหยกปางไสยาสน์ ภายในวัดพระหยก

ศาลาพระหยก (玉佛殿)

ศาลาพระหยกถือเป็นหนึ่งในอาคารสำคัญที่สุดของวัด ประดิษฐานพระพุทธรูปหยกสูง 1.92 เมตร ซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดของวัด แกะสลักจากหยกทั้งก้อน ประดับด้วยทองคำเปลวและอัญมณีราคาแพง ส่องประกายสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ ภายในศาลามีผู้คนมากมายมาสักการะ จุดธูปขอพร จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยศรัทธา อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญด้านศิลปะการแกะสลักและความศรัทธาอันลึกซึ้งในพระพุทธศาสนา จนทำให้ผู้มาเยือนต่างเกิดความเคารพและศรัทธาในทันที

พระหยกปางประทับนั่ง ในหอพระหยกของวัด

คู่มือบัตรเข้าชมวัดพระหยก

ราคาบัตรเข้าชมวัดพระหยก

  • ค่าเข้าชม: ฟรี ไม่ต้องจองล่วงหน้า หากต้องการเข้าชมพระหยก ต้องชำระ 10 หยวน/คน
  • ราคาธูป: มัดละ 25 หยวน

คู่มือการไหว้และถวายธูปที่วัดพระหยก

การถวายธูปในวัดพระหยกถือเป็นพิธีกรรมที่มีความหมายลึกซึ้งในพุทธศาสนา ด้านล่างคือคำแนะนำเกี่ยวกับลำดับการสักการะและขั้นตอนการถวายธูปอย่างละเอียด

ลำดับการสักการะที่แนะนำ

ให้ไหว้ตามแนวอาคารหลักบนแกนกลางก่อน แล้วจึงเดินวนตามเข็มนาฬิกาเพื่อสักการะศาลาอื่น ๆ

เส้นทางการไหว้ที่แนะนำ

ประตูวัด → ศาลาเทวโลก (天王殿) → ศาลาเจ้าแม่กวนอิม → หอระฆัง → หอกลอง → พระอุโบสถใหญ่ (大雄宝殿) → ศาลาพระนอน (臥佛殿) → ศาลาพระมัญชุศรี → ศาลาพระมหากรุณา → ศาลาเจ้าเมือง → ศาลาสามพระโพธิสัตว์ → ศาลาพระไภษัชยคุรุ → ศาลาพระ普贤 → ศาลาพระกษิติครรภ์ → ศาลาพระหยก (玉佛殿)

ขั้นตอนการถวายธูป

  1. การเข้าสู่วัด: ผู้ชายก้าวเท้าซ้ายก่อน ผู้หญิงก้าวเท้าขวาก่อน ห้ามเดินเข้าประตูใหญ่เพราะสงวนไว้สำหรับพระ และห้ามเหยียบธรณีประตู
  2. การจุดธูป: จุดธูปด้วยมือซ้าย ณ จุดที่กำหนด เมื่อไฟติดให้หันปลายขึ้นด้านบน
  3. การดับไฟธูป: ห้ามใช้ปากเป่า ให้โบกเบา ๆ ด้วยมือหรือปล่อยให้ดับเอง
  4. การถือธูป: ใช้สองมือคีบธูป โดยให้หัวแม่มือประคองโคนธูป
  5. การไหว้ธูป: ยืนหน้าศาลา ยกธูปขึ้นระดับคิ้ว หลับตาอธิษฐาน กราบ 3 ครั้ง จากนั้นหันไปทิศตะวันออก ใต้ และเหนือ กราบละ 3 ครั้ง ก่อนปักธูปในกระถาง
  6. การอธิษฐาน: ควรกล่าวเจาะจง ระบุชื่อ ที่อยู่ เรื่องที่ขอพร และวิธีแก้บนเมื่อสำเร็จ
  7. การปักธูป: ใช้มือซ้ายถือธูป มือขวาปักธูปตรงกลางก่อน จากนั้นปักด้านขวา แล้วปักด้านซ้าย
  8. การกราบ: โดยทั่วไปกราบ 3 ครั้ง มือขวาแตะพื้นก่อน ตามด้วยมือซ้าย พลิกฝ่ามือขึ้น เป็นสัญลักษณ์แห่งความเคารพสูงสุด
ธูปกำลังลุกไหม้ ที่วัดพระหยก

คู่มือการคัดลอกพระสูตรในวัดพระหยก

การคัดลอกพระสูตรเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ และไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้สนใจเพียงสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อลงทะเบียน กิจกรรมมีทุกวันตั้งแต่ 09:00–15:00 น. ใช้เวลาประมาณ 1.5–2.5 ชั่วโมง แนะนำให้มาถึงก่อนเวลา คุณสามารถเลือกใช้พู่กัน (ที่ศาลาพระมัญชุศรี) หรือปากกาหมึกสีทอง (ที่ศาลาพระโพธิสัตว์สมันตภัทร) ขณะคัดลอก คุณจะรู้สึกเสมือนเวลาหยุดนิ่ง ได้สัมผัสถึงความสงบและความศักดิ์สิทธิ์ของพุทธศาสนาอย่างแท้จริง

โต๊ะคัดลอกพระสูตร พร้อมพู่กันและกระดาษ ที่วัดพระหยก

อาหารเจแนะนำใกล้วัดพระหยก

หลังจากสักการะวัดพระหยกแล้ว คุณสามารถแวะที่ร้านอาหารเจซึ่งอยู่ใกล้ประตูทางออกของวัด ลองชิมบะหมี่เจซึ่งเป็นเมนูขึ้นชื่อ วัตถุดิบสดใหม่ รสชาติกลมกล่อมแต่ไม่เลี่ยน ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก ขอแนะนำ บะหมี่หลัวฮั่น และ บะหมี่เห็ดคู่ ราคาชามละ 38 หยวน คุ้มค่ามาก บะหมี่หลัวฮั่นใช้ผักตามฤดูกาลหลายชนิด น้ำซุปหอมสดชื่น ส่วนบะหมี่เห็ดคู่ใช้เห็ดเป็นวัตถุดิบหลัก รสเข้มข้น กลมกล่อม และน่าจดจำ ถือเป็นจุดหมายอร่อยที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนรักสุขภาพและอาหารเจ

ก๋วยเตี๋ยวมังสวิรัติ เสิร์ฟที่ร้านอาหารวัดพระหยก

วิธีเดินทางจากตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ไปวัดพระหยก

รถไฟฟ้าใต้ดิน

โดยสารสาย 13 ลงที่สถานี Jiangning Road แล้วเดินประมาณ 10 นาทีก็ถึงวัดพระหยก

รถบัส

โดยสารสาย 19, 36 หรือ 68 ลงที่ป้าย Anyuan Road & Jiangning Road จากนั้นเดินเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงวัด การเดินทางสะดวกมาก

แท็กซี่/รถเรียกผ่านแอป

การนั่งแท็กซี่หรือรถเรียกผ่านแอปจากใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้เป็นวิธีที่รวดเร็ว ค่ารถประมาณ 20–40 หยวน ขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้น เพียงใส่คำว่า “玉佛寺” เป็นจุดหมาย ก็สามารถเดินทางได้ตรงถึงวัดอย่างแม่นยำ


คำถามที่พบบ่อย

วัดพระหยกเหมาะสำหรับนำรถเข็นเด็กเข้าไปหรือไม่?

ภายในวัดพระหยกส่วนใหญ่พื้นเรียบ เหมาะกับการใช้รถเข็นเด็ก แต่บางศาลามีธรณีประตูสูง อาจทำให้เคลื่อนผ่านลำบาก แนะนำว่าหากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการนำรถเข็นเข้าไป หรือฝากไว้บริเวณทางเข้าวัด แล้วเดินชมภายในจะสะดวกและเพลิดเพลินมากกว่า


รวมลิงก์แนะนำเที่ยวเซี่ยงไฮ้ที่จำเป็น