สวัสดีครับทุกคน! ผมคือ Michael Zhang นักเดินทางผู้หลงใหลการท่องเที่ยวที่มีประสบการณ์เดินทางระหว่างประเทศมากมาย ผมชื่นชอบการค้นหาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของแต่ละสถานที่ และเพลิดเพลินกับเสน่ห์ของการท่องเที่ยวเชิงลึกที่มอบประสบการณ์ไม่เหมือนใคร วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จักกับ “ภูเขาชื่อดังแห่งทะเลจีน” คือ ภูเขาเหลาซาน (崂山) ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรักการเดินป่า ผู้สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม หรือเพียงนักท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติ ภูเขาเหลาซานจะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างแน่นอน งั้นเราเริ่มออกเดินทางไปด้วยกันเลยครับ!
สารบัญบทความ
แนะนำภูเขาเหลาซาน
ภูเขาเหลาซาน (崂山) ในอดีตมีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น เหลาซาน (牢山) เหลาซาน (勞山) และอ๋าวซาน (鰲山) เป็นภูเขาท่องเที่ยวชื่อดังของจีน และยังเป็นภูเขาที่สูงที่สุดตามแนวชายฝั่งทะเลจีน จึงได้รับสมญานามว่า “ภูเขาแห่งแรกกลางทะเล” พื้นที่ทั้งหมดของภูเขาครอบคลุมกว่า 446 ตารางกิโลเมตร และได้รับการจัดอันดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 5A ของประเทศจีน
ลักษณะภูมิประเทศของภูเขานี้คือทางด้านตะวันออกสูงชัน ส่วนทางตะวันตกค่อยๆ ลดระดับลง โดยมียอดเขาหลักคือ จวี้เฟิง (巨峰) หรือที่เรียกว่า “เหลาติ่ง (崂頂)” มีความสูงถึง 1,132.7 เมตร และพื้นที่ยอดเขากว้างประมาณ 1.5 ตารางกิโลเมตร
- ที่ตั้ง: เขตเหลาซาน เมืองชิงเต่า มณฑลซานตง (Apple Maps / Amap)
- เวลาเปิดให้เข้าชม:
- เมษายน – ตุลาคม: 06:00 – 19:00
- พฤศจิกายน – มีนาคม: 07:00 – 17:00
- เวลาเหมาะสมในการเที่ยวชม: 1 – 2 วัน
- ฤดูกาลที่ดีที่สุด: เหลาซานสามารถเที่ยวได้ทุกฤดู แต่ช่วงที่น่าเที่ยวที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง อากาศเย็นสบาย เหมาะกับการเดินเขาและชมวิว
- ตั๋วเข้าชม: ซื้อได้ที่ Trip.com พร้อมส่วนลด

แผนที่ภูเขาเหลาซาน

ทำไมต้องไปเที่ยวเหลาซานสักครั้งในชีวิต?
ธรรมชาติอันงดงาม
ภูเขาเหลาซานมีชื่อเสียงในด้านยอดเขาที่สูงตระหง่าน โขดหินรูปร่างแปลกตา สายน้ำใสสะอาด และน้ำตกที่ยิ่งใหญ่ ทิวทัศน์ในแต่ละฤดูสวยงามแตกต่างกันไป: ฤดูใบไม้ผลิมีดอกไม้บานสะพรั่ง ฤดูร้อนเต็มไปด้วยสีเขียวชอุ่ม ฤดูใบไม้ร่วงมีใบไม้แดงสด และฤดูหนาวเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน ที่นี่จึงเป็นสวรรค์ของนักถ่ายภาพและคนรักธรรมชาติ
นอกจากนี้ เหลาซานยังตั้งอยู่ติดกับทะเล มีแนวชายฝั่งยาวกว่า 87 กิโลเมตร ระหว่างทางมีชายหาดและอ่าวที่สวยงามมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถชมความอลังการของท้องฟ้าสีคราม ทะเลกว้างใหญ่ และทะเลหมอกที่พลิ้วไหวได้ตลอดการเดินทาง
ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
เหลาซานไม่เพียงเป็นที่รวบรวมความงามทางธรรมชาติ แต่ยังเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมอีกด้วย ภายในภูเขามีวัดโบราณและศาลเจ้าเต๋ามากมาย เช่น ไท่ชิงกง (太清宮) และ ซ่างชิงกง (上清宮) สิ่งปลูกสร้างเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงศิลปะสถาปัตยกรรมจีนโบราณ และยังสะท้อนถึงความสำคัญของวัฒนธรรมเต๋าในประวัติศาสตร์จีน
เหลาซานถือเป็นหนึ่งในต้นกำเนิดของลัทธิเต๋าในประเทศจีน จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้ศรัทธามาแสวงบุญและปฏิบัติธรรม ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายที่มีทั้งคุณค่าทางจิตวิญญาณและวัฒนธรรมควบคู่ไปพร้อมกัน
สิ่งที่ต้องทำเมื่อมาเที่ยวเหลาซาน
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
เขตท่องเที่ยวไท่ชิง (太清遊覽區)
เขตไท่ชิงเป็นพื้นที่ที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเข้มข้นที่สุดแห่งหนึ่งของเหลาซาน มีชื่อเสียงจากประวัติศาสตร์ลัทธิเต๋าอันยาวนานและกลุ่มสถาปัตยกรรมโบราณ ที่นี่เป็นจุดบรรจบของวัฒนธรรมเต๋ากับธรรมชาติ ดึงดูดทั้งผู้สนใจประวัติศาสตร์และผู้ศรัทธาทางศาสนา ภายในพื้นที่นี้มี วัดไท่ชิงกง (太清宮) และ วัดซ่างชิงกง (上清宮) เป็นศูนย์กลาง สะท้อนถึงรากฐานทางวัฒนธรรมเต๋าที่ลึกซึ้งของเหลาซาน
วัดซ่างชิงกง (上清宮)
วัดซ่างชิงกง หรือที่เรียกว่า “ซ่างกง” ตั้งอยู่บริเวณหุบเขาทางตะวันออกเฉียงใต้ของเหลาซาน ภายในวัดประกอบด้วยลานหลักและลานย่อย รวมทั้งหมด 28 อาคารบนพื้นที่ประมาณ 1,000 ตารางเมตร ตัวอาคารออกแบบตามแนวแกนเหนือ–ใต้แบบสมมาตร
- วิหารหน้า: ประดิษฐาน “ซานชิง (三清)”
- วิหารหลัง: ประดิษฐาน “หยกหวง (玉皇)”
- วิหารด้านข้าง: ใช้สักการะ “ซานกวน (三官)” และ “ชี่เจิน (七真)”
สถาปัตยกรรมของซ่างชิงกงเรียบง่าย สงบ และเต็มไปด้วยบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ เหมาะแก่การสัมผัสวัฒนธรรมทางศาสนาของเหลาซาน
วัดไท่ชิงกง (太清宮)
วัดไท่ชิงกง หรือที่รู้จักกันว่า “เซี่ยกง” ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาทางตอนใต้ของเหลาซาน เป็นวัดเต๋าที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในภูเขานี้ พื้นที่รวมกว่า 30,000 ตารางเมตร พื้นที่สิ่งปลูกสร้างประมาณ 2,500 ตารางเมตร และมีห้องมากกว่า 150 ห้อง
ภายในประกอบด้วย 3 วิหารสำคัญ คือ ซานกวนเตี้ยน (三官殿), ซานชิงเตี้ยน (三清殿) และ ซานหวงเตี้ยน (三皇殿) ที่นี่ได้รับสมญานามว่าเป็น “ป่าเต๋าอันดับสองของแผ่นดินจีน” ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์รองจากวัดไป๋หยุนกวน (白雲觀) ที่ปักกิ่ง
- บัตรเข้าชม: 27 หยวน

เขตท่องเที่ยวยั่งโข่ว (仰口遊覽區)
เขตยั่งโข่วเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ของเหลาซาน เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างภูเขาและทะเลเข้าด้วยกัน ทำให้ทิวทัศน์งดงามตระการตา นอกจากนี้ยังมีโบราณสถานทางศาสนาเต๋ามากมาย เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการชมทะเล ปีนเขา และซึมซับความงามของธรรมชาติ เส้นทางเดินป่าหลากหลายยังทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับนักถ่ายภาพและผู้ที่รักการผจญภัยกลางแจ้ง
วัดไท่ผิงกง (太平宮)
วัดไท่ผิงกง ตั้งอยู่ที่เชิงเขาซ่างหยวนริมอ่าวยั่งโข่ว เดิมมีชื่อว่า “ซ่างหยวนกง” หมายถึงสวนที่จักรพรรดิพระราชทาน วัดแห่งนี้สร้างอยู่ในตำแหน่งที่โอบล้อมด้วยภูเขาและหันหน้าออกสู่ทะเล จึงมีทิวทัศน์งดงาม เหมาะแก่การชมพระอาทิตย์ขึ้น ฟังเสียงคลื่น และชมป่าสน
ใกล้ๆ กันยังมีถ้ำหินประหลาดและหน้าผาสูงชันที่ก่อให้เกิดภูมิทัศน์ทางธรรมชาติที่โดดเด่น
ภูเขาสิงโต (獅子峰)
ภูเขาสิงโต ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของวัดไท่ผิงกง ลักษณะภูเขาสูงชันคล้ายสิงโตคำราม จึงเป็นที่มาของชื่อ ยอดเขามีอักษรสลักโดยนักปราชญ์สมัยราชวงศ์หมิงชื่อ โจวซ่าน (邹善) ซึ่งเขียนคำว่า “ภูมิทัศน์มหัศจรรย์ภูเขาและทะเล (山海奇觀)” ขนาดตัวอักษรกว้างถึง 40 เซนติเมตร ใกล้ยอดเขายังมีถ้ำหินที่มีลักษณะคล้ายปากสิงโต สามารถจุคนได้มากกว่า 10 คน

เขตท่องเที่ยวฮวาเหยียน (華嚴遊覽區)
เขตฮวาเหยียนเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมทางศาสนาพุทธกับธรรมชาติ ตั้งอยู่บนเชิงเขาทางตะวันออกของเหลาซาน มีทั้งภูมิทัศน์ภูเขาและลำธารที่งดงาม บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์ทางศาสนาและสัมผัสความสงบของธรรมชาติไปพร้อมกัน
วัดฮวาเหยียน (華嚴寺)
วัดฮวาเหยียนตั้งอยู่กึ่งกลางเชิงเขาน่าหลัวเหยียนซาน (那羅延山) ทางตะวันออกของเหลาซาน และเป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดที่ยังคงอยู่บนภูเขานี้ ตัววัดสร้างพิงภูเขา มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ วิหารเรียงรายอย่างสวยงามและกลมกลืนไปกับภูมิทัศน์รอบข้าง วัดฮวาเหยียนจึงเป็นทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาและเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดหากอยากชมภูมิทัศน์ภูเขาและลำธารของเหลาซาน
ถ้ำต้าเน่หลัวเหยียน (達那羅延窟)
จากวัดฮวาเหยียน เดินขึ้นไปทางตะวันตกตามลำธารบนภูเขาจะพบ ถ้ำต้าเน่หลัวเหยียน ซึ่งเป็นถ้ำหินธรรมชาติกว้าง 7 เมตร สูงและลึก 10 เมตร ผนังถ้ำสูงชัน ด้านบนมีช่องเปิดกลมคล้ายปากปล่องภูเขาไฟ แสงอาทิตย์สามารถส่องลอดเข้ามาได้ ตามตำนานเล่าว่า พระนารายณ์พุทธะเคยบำเพ็ญเพียรและตรัสรู้ภายในถ้ำแห่งนี้

เขตท่องเที่ยวจวี้เฟิง (巨峰遊覽區)
เขตจวี้เฟิงถือเป็นหัวใจของเหลาซาน มีชื่อเสียงจากภูเขาสูงชัน วิวทิวทัศน์ที่อลังการ และเส้นทางปีนเขาที่หลากหลาย ในฐานะที่เป็นจุดสูงสุดของเหลาซาน นักท่องเที่ยวจึงสามารถสัมผัสเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของ “ภูเขาแห่งแรกกลางทะเล” ได้อย่างใกล้ชิด
ยอดเขาจวี้เฟิง (巨峰)
ยอดเขาจวี้เฟิง หรือที่รู้จักกันว่า “เหลาติ่ง” เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเหลาซาน สูงถึง 1,132.7 เมตร และยังเป็นภูเขาที่สูงที่สุดบนแนวชายฝั่งทะเลยาวกว่า 18,000 กิโลเมตรของจีน
ยอดเขานี้มี 4 สิ่งมหัศจรรย์คือ “พระอาทิตย์ขึ้นที่จวี้เฟิง (巨峰旭照)”, “ทะเลหมอก (雲海奇觀)”, “ลูกไฟเหลาซาน (崂山火球)” และ “รัศมีพุทธะที่จวี้เฟิง (巨峰佛光)”
ยอดเขาถูกสร้างขึ้นจากกลุ่มหินขนาดใหญ่ สูงราว 100 เมตร มีเส้นรอบวงกว่า 600 เมตร จึงเป็นจุดชมวิวและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามอย่างยิ่ง

เขตท่องเที่ยวจิ่วสุ่ย (九水遊覽區)
เขตจิ่วสุ่ยเป็นพื้นที่ที่มีลักษณะภูมิทัศน์แบบภูเขาและสายน้ำชัดเจนที่สุดของเหลาซาน มีชื่อเสียงจากลำธารใสสะอาด พืชพรรณหนาแน่น และหุบเขาลึก คำว่า “จิ่วสุ่ย” มาจากสายน้ำใส 9 สายที่ไหลผ่านและเชื่อมต่อกันจนเกิดเป็นน้ำตกและแอ่งน้ำมากมาย เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในหน้าร้อน การชมวิว และการถ่ายภาพ
น้ำตกเชาอิน (潮音瀑)
น้ำตกเชาอิน หรือที่เรียกว่า “น้ำปลาหลิน (魚鱗瀑)” ตั้งอยู่ปลายสุดของเขตจิ่วสุ่ย น้ำตกแห่งนี้มีเสียงน้ำดังก้องคล้ายเสียงคลื่น และลักษณะของสายน้ำคล้ายเกล็ดปลา จึงได้ชื่อว่าเชาอิน
บนหน้าผาสูงชันมีอักษร “潮音瀑” ที่สลักโดย เย่ กงชั่ว (葉恭綽) นักวิชาการในทศวรรษ 1930 น้ำตกไหลลดหลั่นเป็น 3 ชั้น:
- ชั้นแรก สูงประมาณ 6 เมตร
- ชั้นที่สอง สูงราว 5 เมตร
- ชั้นที่สาม มีความสูงถึง 10 เมตร ก่อให้เกิดม่านน้ำกว้างราว 5 เมตร ไหลตรงลงสู่บ่อน้ำใสด้านล่างอย่างสวยงาม

คู่มือบัตรเข้าชมเหลาซาน
หากมีเวลาเพียง 1 วัน แนะนำให้เที่ยว เขตไท่ชิง ฮวาเหยียน และยั่งโข่ว และซื้อตั๋ว เส้นทางไท่ชิง แบบรวม หากมีเวลา 2 วัน สามารถเพิ่ม เขตจวี้เฟิง โดยซื้อตั๋ว เส้นทางไท่ชิง + เส้นทางจวี้เฟิง และถ้ามีเวลา 3 วัน แนะนำให้รวม เขตจิ่วสุ่ย ด้วย โดยเลือกซื้อตั๋ว แบบรวมเหลาซาน
ราคาบัตรเข้าชมเหลาซาน
- เส้นทางไท่ชิง (แนะนำ)
- รวม: ตั๋วเข้าชมเขตไท่ชิง เขตฮวาเหยียน เขตยั่งโข่ว + รถรับ–ส่งภายใน (ขึ้นได้ไม่จำกัด)
- อายุการใช้งาน: ใช้ได้ต่อเนื่อง 2 วันหลังการตรวจตั๋ว
- ผู้ใหญ่: 120 หยวน
- เด็ก/นักศึกษา: 75 หยวน (เด็กอายุ 7–18 ปี และนักศึกษาระดับปริญญาตรี)
- ผู้สูงอายุ: 15 หยวน (อายุ 60 ปีขึ้นไป)
- ฟรี: เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี หรือสูงไม่เกิน 1.4 เมตร
- ตั๋วเข้าชม: ซื้อได้ที่ Trip.com พร้อมส่วนลด
- เส้นทางจวี้เฟิง
- รวม: ตั๋วเข้าชมเขตจวี้เฟิง + รถรับ–ส่งภายใน (ขึ้นได้ไม่จำกัด)
- อายุการใช้งาน: ใช้ได้เพียง 1 วัน
- ผู้ใหญ่: 110 หยวน
- เด็ก/นักศึกษา: 70 หยวน (เด็กอายุ 7–18 ปี และนักศึกษาระดับปริญญาตรี)
- ผู้สูงอายุ: 15 หยวน (อายุ 60 ปีขึ้นไป)
- ฟรี: เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี หรือสูงไม่เกิน 1.4 เมตร
- บัตรรวมเหลาซาน
- รวม: ตั๋วเข้าชมเขตไท่ชิง จวี้เฟิง ฮวาเหยียน ยั่งโข่ว และจิ่วสุ่ย + รถรับ–ส่งภายใน (ขึ้นได้ไม่จำกัด)
- อายุการใช้งาน: ใช้ได้ต่อเนื่อง 3 วันหลังการตรวจตั๋ว
- ผู้ใหญ่: 200 หยวน
- เด็ก/นักศึกษา: 130 หยวน (เด็กอายุ 7–18 ปี และนักศึกษาระดับปริญญาตรี)
- ผู้สูงอายุ: 30 หยวน (อายุ 60 ปีขึ้นไป)
- ฟรี: เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี หรือสูงไม่เกิน 1.4 เมตร
- เวลาเปิดทำการ
- เมษายน – ตุลาคม: 06:00 – 19:00
- พฤศจิกายน – มีนาคม: 07:00 – 17:00
ช่องทางการซื้อตั๋ว
- ออนไลน์: ผ่าน WeChat อย่างเป็นทางการหรือแพลตฟอร์มจองตั๋ว
- ตั๋วเข้าชม: ซื้อได้ที่ Trip.com พร้อมส่วนลด
- ออฟไลน์: ซื้อตรงที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ภายในเขต
เส้นทางท่องเที่ยวที่แนะนำในเหลาซาน
เหลาซานมีทั้งหมด 5 เขตใหญ่ แต่ละเขตมีจุดเด่นเฉพาะตัว นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเส้นทางตามความสนใจ:
- เขตยั่งโข่ว: เน้นปีนเขาและชมทะเล
- เขตจิ่วสุ่ย: เน้นน้ำตกและลำธาร
- เขตไท่ชิง: เน้นวัฒนธรรมเต๋าและวัดไท่ชิงกง
- เขตฮวาเหยียน: เน้นวัดฮวาเหยียน
- เขตจวี้เฟิง: เน้นการพิชิตยอดสูงสุดของเหลาซาน
เนื่องจากเหลาซานกว้างใหญ่ จึงไม่สามารถเที่ยวครบหลายเขตได้ภายใน 1 วัน หากมีเวลาเพียง 1 วัน แนะนำ เส้นทางไท่ชิงแบบวันเดียว ถ้ามีเวลา 2 วัน แนะนำเที่ยว เส้นทางไท่ชิง 1 วัน + เส้นทางจวี้เฟิง 1 วัน
เส้นทางเที่ยว 1 วัน – เส้นทางไท่ชิง
- ขึ้นรถรับ–ส่งที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวต้าเหอปูตง (大河東) ไปยัง จัตุรัสไท่ชิง
- เที่ยวชม วัดไท่ชิงกง (แนะนำซื้อตั๋ว 27 หยวน) เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมเต๋า
- นั่งรถต่อไปยัง สถานีไท่ชิงกระเช้า แล้วเดินตามป้ายไปยัง ช่องแคบอ่ากุ่ว ➠ หมู่บ้านประมงชิงซาน และถ่ายภาพวิวหมู่บ้านที่ซุ้มประตู
- กลับไปยังอ่ากุ่ว นั่งรถต่อไป เขตยั่งโข่ว
- เริ่มปีนเขาที่เขตยั่งโข่ว ใช้เวลาประมาณ 1–1.5 ชั่วโมงถึงยอด เขาเถียนหยวน ระหว่างทางผ่าน เขาหว่านโซ่ว บนยอดสามารถชมวิวเมืองชิงเต่าและทะเลหมอกได้ ตอนขาลงแวะ วัดไท่ผิงกง และ ภูเขาสิงโต รวมเวลาทั้งหมดในยั่งโข่วประมาณ 2–4 ชั่วโมง
- จากนั้นขึ้นรถไปยัง เขตฮวาเหยียน เลือกชม วัดฮวาเหยียน หรือ ถ้ำเน่หลัวเหยียน ใช้เวลา 1–1.5 ชั่วโมง
- นั่งรถกลับไปยังสถานีอ่ากุ่ว แล้วเปลี่ยนรถไปยัง สถานีหลิวชิง (ตรงศูนย์บริการต้าเหอปูตง)
เส้นทางปีนเขา 1 วัน – เส้นทางจวี้เฟิง
- เริ่มที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวต้าเหอปูตง ขึ้นรถไปยัง ซานเหมิน “เทียนตี้ชุนเหอ”
- เดินขึ้นเขาตามเส้นทาง:
- หลีเหมิน ➠ หิน “ภูเขาแรกกลางทะเล” ➠ ซวิ่นเหมิน ➠ ศาลาเจ๋ยซิง ➠ สะพานเซียนเทียน ➠ เขาหลิงฉี ➠ เจิ้นเหมิน ➠ เกินเหมิน ➠ ค่านเหมิน ➠ จุดชมวิวจวี้เฟิง ➠ วังอู่เฟิงเซียน ➠ เฉียนเหมิน ➠ ตุ้ยเหมิน ➠ สะพานโซ่เหล็ก ➠ คุนเหมิน
- ผ่านหินจูเชวี่ย แล้วกลับสู่หลีเหมิน เดินลงเขา จบเส้นทาง
อาหารท้องถิ่นที่แนะนำใกล้เหลาซาน
- ชาเหลาซาน: เป็นหนึ่งในชาเขียวชื่อดังของจีน ปลูกในสภาพอากาศเย็นสบายและน้ำสะอาด ทำให้รสชาติกลมกล่อม มีกลิ่นหอมอ่อนๆ น้ำชาสีเขียวใส และเป็นของฝากยอดนิยม
- หมั่นโถวเหลาซาน: ขนมปังนึ่งท้องถิ่น ขนาดใหญ่ เนื้อนุ่มฟู ใช้น้ำใต้ดินและแป้งสาลีคุณภาพสูง รสเข้มข้น กินคู่กับผักดองหรือเต้าหู้ท้องถิ่นอร่อยลงตัว
- เต้าหู้น้ำทะเล: เมนูชื่อดัง ใช้น้ำทะเลธรรมชาติจากอ่าวเหลาซานในการทำ เนื้อเนียนนุ่ม มีรสทะเลอ่อนๆ อร่อยได้ทั้งนึ่งและต้ม
- ไก่ตุ๋นเห็ด: ใช้ไก่บ้านเลี้ยงธรรมชาติและเห็ดป่า ตุ๋นกับน้ำแร่จากภูเขา รสเข้มข้น ซุปใสอร่อย ช่วยฟื้นพลังหลังปีนเขา
- หัวไชเท้าเหลาซานสด: หัวไชเท้าท้องถิ่นกรอบหวาน ฉ่ำน้ำ กินสดๆ ได้รสชาติสดชื่น ช่วยแก้เลี่ยน เป็นของว่างที่คนท้องถิ่นนิยม

การเดินทางจากตัวเมืองชิงเต่าไปเหลาซาน
เหลาซานอยู่ห่างจากตัวเมืองชิงเต่าประมาณ 30 กิโลเมตร มีหลายวิธีให้เลือก นักท่องเที่ยวสามารถเลือกตามความสะดวกและงบประมาณ
รถไฟใต้ดิน
รถไฟใต้ดินเป็นวิธีที่สะดวกและประหยัด:
- นั่ง รถไฟใต้ดินสาย 11 ลงที่ สถานีเป่ยจ้าย (北宅站) หรือ สถานีเหลาซาน (崂山站) ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนเส้นทางหลักในการเข้าสู่เขตท่องเที่ยว
- หลังออกจากสถานี สามารถเลือกเดิน นั่งรถบัส หรือเรียกรถไปยังเขตต่างๆ เช่น ไท่ชิง หรือ จวี้เฟิง
รถบัสสาธารณะ
มีหลายสายที่เชื่อมต่อระหว่างตัวเมืองกับเหลาซาน:
- สาย 104: ออกจากสถานีรถไฟชิงเต่า ผ่านไถตง ถนนหงกงจงลู่ และตรงไปยังเขตท่องเที่ยวเหลาซาน
- สาย 113: ออกจากตัวเมืองไปยังเขตยั่งโข่ว ผ่านหลายจุดทางเข้าเหลาซาน
- สาย 304: วิ่งตรงไปยังเขตไท่ชิง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เลือกเส้นทางนี้
แท็กซี่/รถเรียกผ่านแอป
เป็นวิธีที่สะดวกที่สุด:
- ค่าโดยสาร: ประมาณ 80–120 หยวน ต่อเที่ยว
- เวลาเดินทาง: ประมาณ 40–60 นาที
การเดินทางจากสนามบินนานาชาติชิงเต่าเจียวตงไปเหลาซาน
สนามบินเจียวตงตั้งอยู่ทางตอนเหนือของชิงเต่า ห่างจากเหลาซานประมาณ 60 กิโลเมตร มี 3 วิธีหลักในการเดินทาง
รถไฟใต้ดิน
เป็นวิธีที่ประหยัดค่าใช้จ่าย:
- นั่ง รถไฟใต้ดินสาย 8 (สถานีสนามบินเจียวตง) ไปยัง สถานีอ๋าวถี่จงซิน (奧體中心站)
- เปลี่ยนไป รถไฟใต้ดินสาย 11 ลงที่ สถานีเป่ยจ้าย หรือ สถานีเหลาซาน
- หลังจากนั้นต่อรถบัสหรือรถผ่านแอปไปยังเขตท่องเที่ยว เช่น ไท่ชิง หรือ ยั่งโข่ว
- เวลารวม: ประมาณ 2 ชั่วโมง
- ค่าโดยสาร: ประมาณ 15–20 หยวน
รถบัสสนามบิน
เป็นอีกทางเลือกที่สะดวก:
- ขึ้น รถบัสสนามบินสาย 2 ที่สนามบิน มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมือง (เช่น จัตุรัสอู่ซื่อ)
- จากตัวเมืองต่อรถบัสสาย 104 หรือ 113 ไปยังเขตเหลาซาน
- เวลารวม: ประมาณ 2.5–3 ชั่วโมง
- ค่าใช้จ่าย: รถบัสสนามบิน 30 หยวน + รถบัสเมือง 2–5 หยวน
แท็กซี่/รถเรียกผ่านแอป
วิธีที่รวดเร็วที่สุด:
- เส้นทาง: จากสนามบินตรงไปยังเขตหลัก เช่น ไท่ชิง หรือ ยั่งโข่ว
- ค่าโดยสาร: ประมาณ 150–200 หยวน
- เวลาเดินทาง: ประมาณ 1 ชั่วโมง
คำถามที่พบบ่อย
บางพื้นที่ในเหลาซานสามารถใช้รถเข็นเด็กได้ แต่ไม่ใช่ทุกเส้นทางที่สะดวก
-พื้นที่ที่เหมาะสม:
—เขตไท่ชิง และ เขตฮวาเหยียน: เส้นทางค่อนข้างราบเรียบ ทางเดินกว้าง เหมาะสำหรับรถเข็นเด็ก
—รอบสถานีรถรับ–ส่ง: ส่วนใหญ่เป็นทางปูน เดินทางสะดวก
–พื้นที่ที่ไม่เหมาะสม:
––เขตยั่งโข่ว และ เขตจวี้เฟิง: เส้นทางภูเขาสูงชัน มีบันไดจำนวนมาก ใช้รถเข็นลำบาก
––เขตจิ่วสุ่ย: เส้นทางธรรมชาติ พื้นไม่เรียบ ไม่แนะนำให้นำรถเข็นไป
–ฝากแบบมีเจ้าหน้าที่: ภายในห้องจำหน่ายตั๋วมีบริการฝากของฟรี หลังจากตรวจความปลอดภัยจะเห็นจุดบริการทันที
–ฝากแบบอัตโนมัติ: ตู้ฝากของอัตโนมัติอยู่ด้านนอกห้องจำหน่ายตั๋ว เพียงสแกน QR โค้ดก็สามารถใช้งานได้
Comment (0)