สวัสดีครับ ผมชื่อ Michael Zhang ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมได้เดินทางไปเยือนแหล่งโบราณสถานทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นพีระมิดแห่งอียิปต์ หรืออะโครโพลิสในกรุงเอเธนส์ ทุกสถานที่ต่างก็เป็นเหมือนหนังสือประวัติศาสตร์ไร้เสียงที่รอให้คนมาอ่าน แต่ถ้าคุณถามผมว่า สถานที่ใดในจีนที่สามารถเทียบชั้นกับสถานที่เหล่านั้นได้? ผมจะตอบโดยไม่ลังเลเลยว่า “พระใหญ่เล่อซาน” พระพุทธรูปหินแกะสลักขนาดยักษ์ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง และใช้เวลากว่า 90 ปีในการสร้าง ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของมณฑลเสฉวนเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดสูงสุดของศิลปะหินแกะสลักในอารยธรรมจีน ในบทความนี้ ผมจะพาคุณไปรู้จักกับประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และคำแนะนำในการเยี่ยมชมพระใหญ่เล่อซาน หวังว่าคุณจะไม่ได้มาแค่ “ถ่ายรูปเช็กอิน” แต่จะได้ “เข้าใจลึกซึ้ง” ถึงความหมายของสถานที่อันทรงคุณค่านี้
สารบัญบทความ
แนะนำพระใหญ่เล่อซาน
พระใหญ่เล่อซาน หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พระใหญ่หลิงอวิ๋น ชื่อเต็มทางการคือ “พระศากยมุนีหินแกะสลักแห่งวัดหลิงอวิ๋นเจียโจว” เป็นพระพุทธรูปปางประทับนั่งของพระศรีอารยเมตไตรย มีความสูงรวมทั้งสิ้น 71 เมตร ถือเป็นพระพุทธรูปหินแกะสลักกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน พระใหญ่เล่อซานเริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 713 (ต้นราชวงศ์ถัง) และสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 803 ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 90 ปี ที่นี่ได้รับการจัดอันดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 5A ของประเทศจีน และยังถูกขึ้นทะเบียนร่วมกับเขาเอ๋อเหมยให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก
หัวของพระใหญ่เล่อซานอยู่ในระดับเดียวกับภูเขา มีความสูง 14.7 เมตร และกว้าง 10 เมตร มีปมผมถึง 1,051 ปม ใบหูยาวถึง 7 เมตร พระพุทธรูปองค์นี้ถูกสลักบนหน้าผา ริมฝั่งแม่น้ำ พร้อมกับพระอิริยาบถที่สงบนิ่ง แต่ทรงพลัง สื่อถึงความยิ่งใหญ่อลังการของศิลปะยุคราชวงศ์ถัง ทั้งสองฝั่งขององค์พระยังมีรูปแกะสลักของเทพผู้พิทักษ์สูงกว่า 16 เมตรอีกด้วย
ที่น่าสนใจคือ บริเวณด้านขวาของพระยังมี “ทางเดินเลี้ยวเก้าชั้น” หรือที่เรียกว่า “หลิงอวิ๋นจ้านเต่า” ซึ่งเป็นเส้นทางโบราณที่ถูกสลักไว้บนหน้าผา ใช้เป็นทางขึ้นลงของช่างแกะสลักในสมัยนั้น เส้นทางนี้คดเคี้ยวและชันมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความตื่นเต้นและประวัติศาสตร์ไปพร้อมกัน
- ที่อยู่: ถนนหลิงอวิ๋น เลขที่ 2435 เขตซื่อจง เมืองเล่อซาน (Apple Maps / Amap)
- เวลาเปิด-ปิด:
- ช่วงพีคซีซัน (1 เม.ย. – 7 ต.ค.): 07:30 – 18:30
- ช่วงโลว์ซีซัน (8 ต.ค. – 31 มี.ค.): 08:00 – 17:30
- เวลาเที่ยวที่แนะนำ: 3 – 5 ชั่วโมง
- เที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- ชมแบบ VR: คลิกชมแบบเสมือนจริง
- ค่าตั๋ว: 80 หยวน
- จองตั๋ว: โปรโมชั่น Trip.com

แผนที่พระใหญ่เล่อซาน

ทำไมถึงควรไปพระใหญ่เล่อซาน
วัฒนธรรมอันลึกซึ้งที่สัมผัสได้
พระใหญ่เล่อซานเริ่มต้นการก่อสร้างในปี ค.ศ. 713 สมัยราชวงศ์ถัง และใช้เวลาถึง 90 ปีจึงแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 803 องค์พระนี้ไม่เพียงเป็นสิ่งก่อสร้างศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของสังคมจีนในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม หรือศาสนา ด้วยการสลักพระที่ผาสูงริมแม่น้ำ แสดงให้เห็นถึงฝีมือระดับสูงของช่างสมัยโบราณ และการเข้าใจอย่างลึกซึ้งในแนวคิดพุทธศิลป์ พระพุทธรูปนี้จึงไม่ใช่แค่ศิลปะ แต่ยังเป็นขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์และวิทยาศาสตร์
ธรรมชาติสุดตระการตา
พื้นที่รอบพระใหญ่เล่อซานมีทัศนียภาพที่งดงาม ไม่ได้มีแค่พระพุทธรูปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภูเขาหลิงอวิ๋น และภูเขาอูโหย่ว ซึ่งทำให้พื้นที่ทั้งหมดกลายเป็นจุดท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่หลากหลาย นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับวิวแม่น้ำและภูเขาได้พร้อมกับการไหว้พระ นอกจากนี้ หากมีโอกาสมาเที่ยวช่วงเย็น อย่าพลาดประสบการณ์ “พระใหญ่เล่อซานยามค่ำคืน” เพราะแสงไฟที่ส่ององค์พระในเวลากลางคืนจะสร้างความอลังการแบบที่คุณไม่อาจลืม
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไป พระใหญ่เล่อซาน
สถานที่สำคัญในพระใหญ่เล่อซาน
ตัวอักษร “พุทธ” ที่สลักบนผาหิน
ในเขตพระใหญ่เล่อซาน จุดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคืออักษรคำว่า “พุทธ” ที่สลักไว้บนหน้าผาด้านล่างวัดหลิงอวิ๋น โดยเป็นผลงานของซูซือ ปรมาจารย์ด้านอักษรวิจิตรในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ ตัวอักษรนี้มีความสูงประมาณ 1.5 เมตร เส้นสายทรงพลัง หนักแน่น และมีความงดงามแบบดั้งเดิม สะท้อนสไตล์การเขียนที่ “แข็งแกร่ง พลิ้วไหว มีพลัง” ของซูซืออย่างชัดเจน อักษรนี้จึงไม่ใช่เพียงงานศิลป์ แต่ยังเป็นมรดกทางจิตวิญญาณที่สืบทอดมานับพันปี แสดงถึงความเคารพและความเข้าใจในพุทธศาสนาของเหล่าปัญญาชนในสมัยนั้น

วัดหลิงอวิ๋น
วัดหลิงอวิ๋นสร้างขึ้นในยุคราชวงศ์ถัง เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาที่รวมถึงพระใหญ่เล่อซาน เดิมชื่อ “วัดหลิงเหยียน” แต่ภายหลังเปลี่ยนชื่อให้สอดคล้องกับภูเขาหลิงอวิ๋นซึ่งเป็นที่ตั้งของพระใหญ่ วัดตั้งอยู่บนเนินเขา รายล้อมด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ และมีกลิ่นธูปลอยอบอวลอยู่เสมอ ถือเป็นศูนย์กลางความศรัทธาของชาวเมืองเล่อซาน หลังผ่านประตูวัด นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นบันไดเพื่อสัมผัสบรรยากาศการสักการะที่ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ แม้จะได้รับการบูรณะหลายครั้ง แต่วัดยังคงรักษารูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์หมิงและชิงไว้อย่างดี เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมพุทธในจีนโบราณ

ทางเดินจ้านเต่า (ทางเดินเลี้ยวเก้าโค้ง)
ทางเดินจ้านเต่า หรือที่เรียกอีกชื่อว่า “ทางเดินเก้าโค้ง” เป็นหนึ่งในเส้นทางหลักที่ใช้เดินลงไปถึงฝ่าเท้าของพระใหญ่ เส้นทางนี้ถูกสลักไว้บนหน้าผา มีความคดเคี้ยว และแนบชิดกับผาหิน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังเพื่อใช้เป็นทางขึ้นลงของช่างแกะสลักพระ แม้จะได้รับการเสริมโครงสร้างให้แข็งแรงในยุคปัจจุบัน แต่ก็ยังคงรูปลักษณ์ดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี นักท่องเที่ยวที่เดินตามเส้นทางนี้จะสามารถแหงนมองใบหน้าขององค์พระและก้มมองแม่น้ำที่ไหลอยู่เบื้องล่าง เป็นหนึ่งในมุมที่ใกล้ชิดกับองค์พระมากที่สุด แต่เนื่องจากทางค่อนข้างชัน แนะนำให้สวมรองเท้าที่ใส่สบายและกันลื่น

พระใหญ่เล่อซาน
พระใหญ่เล่อซานถือเป็นศูนย์กลางและหัวใจของทั้งเขตท่องเที่ยว องค์พระเป็นรูปปั้นพระศรีอารยเมตไตรยปางประทับนั่ง หันหน้าออกสู่แม่น้ำ มีความสูงถึง 71 เมตร ใบหน้าเปี่ยมด้วยความสงบ สง่างามและยิ่งใหญ่เหนือคำบรรยาย พระองค์ไม่ได้เป็นเพียงงานพุทธศิลป์เท่านั้น แต่ยังเป็นโครงการวิศวกรรมหินระดับมหากาพย์ ใบหูยาว 7 เมตร ฝ่ามือกว้างพอให้นั่งได้เป็นสิบคน สะท้อนฝีมือการแกะสลักหินที่ล้ำเลิศในยุคราชวงศ์ถัง ที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้นคือระบบระบายน้ำที่แฝงอยู่หลังองค์พระ ไม่ว่าจะเป็นช่องระบายในผม รอยจีวร หรือช่องทางลับภายใน ล้วนทำหน้าที่ระบายน้ำฝนได้อย่างดีเยี่ยมมานานนับพันปี ช่วยให้องค์พระคงสภาพสมบูรณ์จวบจนทุกวันนี้ เป็นผลงานที่ผสานระหว่างศรัทธาและภูมิปัญญาอย่างแท้จริง

ข้อมูลบัตรเข้าชมพระใหญ่เล่อซาน
ราคาบัตรเข้าชม
- ผู้ใหญ่: 80 หยวน
- เด็ก: 40 หยวน (อายุ 7–17 ปี หรือต่ำกว่า 18 ปี)
- นักศึกษา: 40 หยวน (เฉพาะนักศึกษาปริญญาตรีหรือต่ำกว่า)
- ผู้สูงอายุ (อายุ 60–64 ปี): 40 หยวน (เฉพาะช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ของจีน) หากไม่ใช่ช่วงเทศกาล เข้าชมฟรี
- เข้าฟรี: เด็กสูงไม่เกิน 1.2 เมตร หรืออายุต่ำกว่า 6 ปี, ผู้สูงอายุอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้สูงอายุ 60–64 ปีที่มาในวันธรรมดา (ไม่ใช่เทศกาลจีน)
ช่องทางการซื้อตั๋ว
- ออนไลน์: ผ่านบัญชีทางการใน WeChat หรือเว็บไซต์จองตั๋วออนไลน์
- จองตั๋ว: โปรโมชั่น Trip.com
- ออฟไลน์: ซื้อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (แนะนำให้ไปเช้าๆ เพราะตั๋วมักจะหมดเร็ว)
เส้นทางเที่ยวพระใหญ่เล่อซาน: เดินขึ้นเขาหรือขึ้นเรือดี?
การชมพระใหญ่เล่อซานมีอยู่สองเส้นทางหลัก ได้แก่ การเดินขึ้นเขา และการล่องเรือ หากเลือกเดินขึ้นเขา ต้องซื้อตั๋วเข้าชม แต่ถ้าเลือกนั่งเรือจะไม่ต้องซื้อตั๋วหลัก ดังนั้นสามารถเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทำทั้งสองแบบก็ได้ หากเป็นครั้งแรก และสุขภาพร่างกายเอื้ออำนวย ขอแนะนำให้เดินขึ้น เพราะคุณจะได้สัมผัสองค์พระอย่างใกล้ชิด แม้การนั่งเรือจะดูสบายกว่า และสามารถถ่ายภาพพระทั้งองค์จากด้านหน้าได้ แต่จุดแวะพักเรือมักจะมีคนแน่น ทำให้บรรยากาศไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณไม่สามารถเดินขึ้นเขาได้ การนั่งเรือคือทางเลือกที่ดีที่สุดในการชมองค์พระ
คำแนะนำการเดินขึ้นเขา
- เส้นทางแนะนำ (ประมาณ 2 ชั่วโมง): ประตูทิศเหนือ → ถ้ำพระศรีอารยเมตไตรย → อักษร “พุทธ” ของซูซือ → ถ้ำเจ้าแม่กวนอิม → จุดชมวิวแม่น้ำสามสาย → น้ำตกหลงชิว → ถ้ำเสือ → ศาลาใส่เหล้า → วัดหลิงอวิ๋น → พระใหญ่เล่อซาน → ถ้ำไห่ซือ → ฝ่าเท้า → ศาลาจันทร์ → สวนซู → ออกทางประตูทิศตะวันออก
- หากคุณออกจากประตูทิศตะวันออกและต้องการนั่งเรือต่อ ให้ขึ้นรถชมวิวไปยังท่าเรืออูโหย่ว
คำแนะนำการล่องเรือ
- หากจะขึ้นเรือโดยตรง ให้ตั้งตำแหน่งในแอปแผนที่ว่า “ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวทิศใต้” ท่าเรืออยู่ที่ท่าอูโหย่ว
- หากคุณเริ่มจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจุดอื่น ให้ใช้รถชมวิวจะสะดวกกว่า
- รายละเอียดเรือ:
- มีจุดเช็กอิน 2 แห่ง: คำจารึก “เสาหลักกลางสายน้ำ” บนผา และพระใหญ่เล่อซาน
- เรือจะหยุดที่หน้าฝ่าเท้าองค์พระประมาณ 5 นาที มีเจ้าหน้าที่ถ่ายภาพให้ฟรี พร้อมแจกภาพขนาด 5 นิ้ว และสามารถซื้อภาพขนาด 8 นิ้วแบบคมชัดในราคา 30 หยวน/ใบ
- ขึ้นและลงที่ท่าเรือเดียวกัน
- ราคาตั๋วเรือ: 70 หยวน
- จองตั๋วเรือ: คลิกจองที่นี่
แนะนำอาหารอร่อยใกล้พระใหญ่เล่อซาน
บริเวณทางเข้าทิศเหนือของพระใหญ่เล่อซานมีร้านอาหารหลายแห่งให้คุณเลือกนั่งพักและทานอาหารแบบง่ายๆ แต่ถ้าอยากลองอาหารท้องถิ่นของจริง ขอแนะนำให้ไปยัง “ถนนอาหารซั่งจงซุ่น” ที่ท่าเรือเล่อซาน ใช้เวลานั่งรถเพียง 15 นาที ถนนทั้งสายเรียงรายไปด้วยร้านอาหารมากมายที่รอให้คุณมาลิ้มลอง
โรงแรมแนะนำใกล้พระใหญ่เล่อซาน
การมาเที่ยวเล่อซาน ส่วนใหญ่จะเป็นการเที่ยวสองที่หลักคือ พระใหญ่เล่อซาน และภูเขาเอ๋อเหมย รวมถึงการลิ้มลองของอร่อยจากเล่อซาน ดังนั้นหากคุณมีแผนจะพักค้างคืนที่ภูเขาเอ๋อเหมยหนึ่งคืน ก็สามารถเลือกพักที่เล่อซานอีก 1–2 คืนได้ แนะนำให้พักย่านถนนอาหารซั่งจงซุ่น (上中顺街) ซึ่งเป็นย่านของกินที่ดังที่สุดของเล่อซาน ตรงข้ามแม่น้ำก็คือพระใหญ่เล่อซาน เดินทางไป-กลับจากสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงหรือแหล่งท่องเที่ยวก็สะดวก
โรงแรมเจียงซ่าง หลิงหยุน ชิงวาน (ถนนอาหารจางกงเฉียว พระใหญ่เล่อซาน)
.webp)
- การเดินทาง: เดินจากถนนอาหารซั่งจงซุ่นเพียง 2 นาที
- ราคาต่อคืน: 138 CNY (~627 บาท)
- ตรวจสอบราคา: ข้อเสนอพิเศษจาก Trip.com
- คะแนนรีวิว: Trip ให้ 9.4 คะแนน
- สิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษ: ห้องซักผ้า, ห้องพักสำหรับ 3 คน, ห้องสำหรับครอบครัว
ทำเลดี เดินทางสะดวก รายล้อมด้วยร้านอาหารมากมาย สามารถมองเห็นแม่น้ำหมินจากหน้าต่าง และตรงข้ามคือเขตพระใหญ่เล่อซาน
ห้องพักสะอาด หมอนและเตียงนอนสบาย ห้องน้ำและห้องอาบน้ำแยกกันอย่างลงตัว ข้อควรระวังคือโรงแรมตั้งอยู่ในโซนที่คึกคัก อาจมีเสียงดังในตอนกลางคืน ควรแจ้งพนักงานตอนเช็คอินว่าอยากได้ห้องเงียบๆ
โรงแรมฟรอมอะบิวตี้ฟูลดรีม (โรงแรมยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว)
.webp)
- การเดินทาง: อยู่ในย่านถนนอาหารซั่งจงซุ่น
- ราคาต่อคืน: 308 CNY (~1,400 บาท)
- ตรวจสอบราคา: ข้อเสนอพิเศษจาก Trip.com
- คะแนนรีวิว: Trip ให้ 9.7 คะแนน
- สิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษ: ห้องซักผ้า
ทำเลดี บรรยากาศดี อยู่ในย่านของกิน เดินลงไปข้างล่างก็เจอร้านอาหารมากมาย นั่งแท็กซี่ไปพระใหญ่เล่อซานเพียง 15 นาที
ห้องพักมีสไตล์ ตกแต่งแบบวาบิซาบิ สวยงาม เตียงนอนนุ่มสบาย ความสะอาดดีเยี่ยม สิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ อ่างอาบน้ำสะอาด แรงดันน้ำดีมาก พนักงานบริการดีเยี่ยม คุ้มราคาสุดๆ
วิธีเดินทางจากตัวเมืองเล่อซานไปพระใหญ่เล่อซาน
โดยปกติ นักท่องเที่ยวจะนั่งรถไฟความเร็วสูงมาลงที่สถานีเล่อซาน จากนั้นเดินทางต่อไปยังพระใหญ่เล่อซาน ดังนั้นข้อมูลด้านล่างคือวิธีเดินทางจากสถานีรถไฟความเร็วสูงไปยังเขตพระใหญ่
รถโดยสารประจำทาง
ลงที่สถานีรถไฟเล่อซานแล้วต่อรถบัสสาย K1 หรือ 601 ไปลงที่ป้ายเจียติ้งฟาง (嘉定坊) ค่าโดยสาร 2 หยวน จากนั้นเดินอีก 500 เมตรถึงศูนย์นักท่องเที่ยวประตูทิศเหนือ แล้วนั่งรถชมวิวเข้าไปถึงประตูตรวจตั๋ว
แท็กซี่/เรียกรถผ่านแอป
จากสถานีรถไฟเล่อซานนั่งแท็กซี่ไปพระใหญ่เล่อซานใช้เวลาประมาณ 30 นาที ค่าโดยสารประมาณ 25 หยวน
วิธีเดินทางจากตัวเมืองเฉิงตูไปพระใหญ่เล่อซาน
หากคุณต้องการเที่ยวแบบอิสระ การนั่งรถไฟความเร็วสูงจากเฉิงตูไปเล่อซานเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด แล้วต่อรถบัสไปยังพระใหญ่เล่อซาน หากคุณมีเด็กหรือผู้สูงอายุร่วมเดินทาง และไม่อยากลำบากเรื่องการต่อรถ แนะนำให้ซื้อแพ็กเกจวันเดียวจากเฉิงตู ซึ่งรวมรถรับส่งไป-กลับไว้ครบ
รถไฟความเร็วสูง + รถบัส
เริ่มจากสถานีเฉิงตูตง (Chengdudong) นั่งรถไฟความเร็วสูงไปยังสถานีเล่อซาน ใช้เวลา 55 นาที ค่าโดยสารประมาณ 54 หยวน จากนั้นต่อรถบัสสาย K1 หรือ 601 ไปยังป้ายเจียติ้งฟาง แล้วเดิน 500 เมตรถึงศูนย์นักท่องเที่ยว จากนั้นนั่งรถชมวิวไปยังประตูตรวจตั๋ว
- สถานีรถไฟ: Chengdudong → Leshan
- จองตั๋วรถไฟ: คลิกจอง
ทัวร์วันเดียวจากเฉิงตู
มีหลายแพ็กเกจให้เลือก เริ่มจากตัวเมืองเฉิงตู พาเที่ยวพระใหญ่เล่อซานและสถานที่ใกล้เคียง แล้วกลับเข้าเมืองเฉิงตู เหมาะกับคนที่ไม่อยากเดินหรือไม่อยากวางแผนเอง
คำถามที่พบบ่อย
ถ้าคุณพาเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุมาด้วย ขอแนะนำให้เลือกเส้นทางล่องเรือ เพราะเป็นทางราบทั้งหมด ยกเว้นตอนขึ้นลงเรือที่ต้องระวังเป็นพิเศษ
ศูนย์นักท่องเที่ยวของพระใหญ่เล่อซานมีบริการฝากกระเป๋าเดินทางฟรี หากคุณต้องการฝากกระเป๋าไว้ที่ใกล้สถานีรถไฟเล่อซาน สามารถไปที่สถานีรถบัสใกล้สถานีรถไฟ ที่นั่นมีตู้ล็อกเกอร์ฟรี หรือจะฝากกับร้านค้าใกล้เคียง (มีค่าบริการ 10 หยวน/ชิ้น)
Comment (0)