ผมคือ Michael Zhang นักเดินทางชาวจีนผู้รักการผจญภัยเป็นชีวิตจิตใจ ผมเคยท่องเที่ยวมาแล้วหลายประเทศทั่วโลก แต่สิ่งที่ทำให้ผมหลงใหลมากที่สุดคือการได้เจาะลึกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และตำนานอันงดงามที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางขุนเขาและธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ วันนี้ผมจะพาคุณไปสัมผัสเสน่ห์ของหนึ่งในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าของจีน — ภูเขา “หัวซาน” (Hua Shan) ภูเขาแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องเส้นทางที่ สูงชันและอันตราย อีกทั้งยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง ถือเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาดเลยทีเดียว


สารบัญบทความ


แนะนำภูเขาหัวซาน

ภูเขาหัวซานเป็นหนึ่งในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ห้าแห่งของจีน และได้รับการจัดอันดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAAA ของประเทศ ภูเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกติดกับเมืองถงกวน ทางตะวันตกจรดเขตหัวเสี้ยน ทางใต้เชื่อมกับแนวเทือกเขาฉินหลิ่ง และทางเหนือเชื่อมกับที่ราบแม่น้ำเว่ย พื้นที่ทั้งหมดกว่า 148.4 ตารางกิโลเมตร ได้รับสมญานามว่า “ภูเขาที่ สูงชันและท้าทายที่สุด ในแผ่นดินจีน”

  • ที่อยู่: ถนนจี้หลิง เมืองหัวอิน เมืองเว่ยหนาน มณฑลส่านซี อยู่ห่างจากซีอานประมาณ 120 กิโลเมตร (Apple Maps / Amap)
  • เวลาเปิดทำการ:
    • สถานีเคเบิลคาร์ฝั่งตะวันออกและตะวันตก เปิดจำหน่ายบัตรเข้าตั้งแต่ 7:00–16:00 น. และเคเบิลคาร์ให้บริการถึง 19:00 น.
    • ทางเข้าเส้นทางเดินเขา (Hua Shan Gate) เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
  • เวลาเที่ยวที่แนะนำ:
    • ใช้เคเบิลคาร์: ประมาณ 4–5 ชั่วโมง
    • เดินเขา: ประมาณ 8–10 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น
  • ฤดูกาลที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว: สามารถเที่ยวหัวซานได้ทั้งสี่ฤดู แต่ที่งดงามที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.–พ.ค.) และฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.–พ.ย.) ส่วนฤดูร้อน (มิ.ย.–ส.ค.) เต็มไปด้วยความเขียวขจี และฤดูหนาว (ธ.ค.–ก.พ.) สามารถชมความสวยงามของหิมะได้
  • ซื้อตั๋ว: โปรโมชั่นพิเศษที่ Trip.com
วิวพาโนรามาของยอดเขาและหุบเขาภูเขาหัวซาน

แผนที่ภูเขาหัวซาน

แผนที่รายละเอียดของเขตทิวทัศน์ภูเขาหัวซาน

ทำไมใครๆ ก็อยากไปภูเขาหัวซาน?

ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่

หัวซานขึ้นชื่อเรื่องความ สูงชันและอันตราย ควบคู่กับความงดงามตามธรรมชาติ ห้าหมู่ยอดเขาสูงตระหง่าน ท่ามกลางหมอกที่ลอยวนเหมือนแดนสวรรค์ แต่ละฤดูมีเสน่ห์ไม่ซ้ำกัน — ฤดูใบไม้ผลิเต็มไปด้วยดอกไม้บานสะพรั่ง ฤดูร้อนเขียวชอุ่ม ฤดูใบไม้ร่วงปกคลุมด้วยป่าไม้สีทองแดง และฤดูหนาวสงบงามภายใต้ผืนหิมะ นอกจากนี้ภูเขาหินแกรนิตและโครงสร้างทางธรณีวิทยาอันโดดเด่นยังทำให้หัวซานแตกต่างไม่เหมือนใคร

ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

หัวซานได้รับการขนานนามว่า “รากเหง้าของอารยธรรมจีน” และยังเป็นต้นกำเนิดของลัทธิเต๋าสายเฉวียนเจิน ภูเขาแห่งนี้มีถ้ำแขวนกว่า 72 แห่ง และวัดเต๋ามากกว่า 20 แห่ง อีกทั้งยังมีตำนานและเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ เช่น “ผ่าภูเขาช่วยแม่” และ “เป่าขลุ่ยเรียกฟีนิกซ์” ทำให้หัวซานเป็นภูเขาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรม

ความท้าทายและประสบการณ์

เส้นทางเดินเขาของหัวซานเป็นที่รู้จักกันดีว่าโหด สูงชันและท้าทาย จุดที่โด่งดังอย่าง “ทางเดินกระดานยื่นออกจากหน้าผา” และ “เหยี่ยวตลบตัว” เป็นบททดสอบทั้งแรงกายและใจ แต่เมื่อคุณพิชิตได้ ความรู้สึกสำเร็จพร้อมวิวอันยิ่งใหญ่ก็คุ้มค่าที่สุด

พระอาทิตย์ขึ้นและตก

พระอาทิตย์ขึ้นและตกที่หัวซานงดงามจนทำให้ผู้คนทึ่ง โดยเฉพาะที่ยอดเขาตะวันออก ซึ่งดวงอาทิตย์ค่อยๆ ลอยขึ้นจากทะเลหมอก พร้อมแสงแรกที่สาดส่องไปทั่วขุนเขา ความงามนี้ทำให้หลายคนประทับใจไม่รู้ลืม


วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของหัวซาน

หัวซานถูกยกย่องว่าเป็น “รากเหง้าของอารยธรรมจีน” ตัวอักษร “华” ในคำว่า “中华” (ประเทศจีน) และ “华夏” (อารยธรรมจีนโบราณ) ก็มาจากภูเขานี้ ตั้งแต่สมัยโบราณ หัวซานถือเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ จักรพรรดิหลายพระองค์ เช่น ฉินสื่อหวง ฮั่นอู่ตี้ อู่เจ๋อเทียน และถังเสวียนจง ต่างเคยเสด็จมาทำพิธีบวงสรวงที่นี่

อีกทั้งหัวซานยังเป็นต้นกำเนิดของลัทธิเต๋าสายเฉวียนเจิน มีถ้ำแขวนกว่า 72 แห่ง และวัดกว่า 20 แห่ง เช่น “ถ้ำซีเสวียน” ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ถ้ำสวรรค์ลำดับที่สี่” ที่นี่เต็มไปด้วยเรื่องราวของนักพรตผู้ยิ่งใหญ่ เช่น เฉินถวน และ เฮ่า ต้าถง รวมถึงตำนาน “ผ่าภูเขาช่วยแม่” และ “เป่าขลุ่ยเรียกฟีนิกซ์” ภูเขานี้ยังเก็บรักษาไว้ซึ่งบทกวีและจารึกมากกว่า 1,200 ชิ้น และศิลาจารึกบนหน้าผามากกว่าหนึ่งพันแห่งอีกด้วย


กิจกรรมที่ต้องทำเมื่อไปหัวซาน

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ

ทางเดินแผ่นไม้กลางหน้าผา (Chang Kong Zhan Dao)

ทางเดินกระดานกลางอากาศตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาด้านตะวันออกของยอดเขาใต้หัวซาน ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์หยวนโดยนักพรตชื่อ เหอ จื้อเจิน เพื่อใช้เป็นที่บำเพ็ญตนเสาะหาความสงบ เส้นทางนี้ฝังอยู่บนหน้าผาสูงชัน ใช้ตะปูหินและคานไม้ค้ำยัน พื้นเบื้องล่างคือเหวลึกนับพันเมตร ตลอดเส้นทางมีโซ่เหล็กห้อยอยู่สองข้าง นักท่องเที่ยวต้องเบียดตัวเข้ากับผนังผาและค่อยๆ ก้าวไปอย่างระมัดระวัง จึงได้รับการขนานนามว่า “ความท้าทายอันดับหนึ่งของหัวซาน” ค่าบัตรผ่าน 30 หยวน

นักปีนเขาที่กำลังข้ามเส้นทางหน้าผาฉางคงบนภูเขาหัวซาน

เหยี่ยวตลบตัว (Yao Zi Fan Shen)

เหยี่ยวตลบตัวถูกเรียกว่าเป็น “ความท้าทายอันดับสองของหัวซาน” ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันของยอดตะวันออก และเป็นเส้นทางบังคับไปยังศาลาหมากรุก เส้นทางนี้ชันจนมีลักษณะคล้ายปีกเหยี่ยว นักท่องเที่ยวต้องหันหน้าเข้าหาผนัง ใช้มือเกาะโซ่เหล็ก และใช้ปลายเท้าเหยียบลงบนรอยหินเล็กๆ สลับกันลงไป เป็นประสบการณ์ที่ทั้งตื่นเต้นและหวาดเสียว ค่าบัตรผ่าน 30 หยวน

นักปีนเขาที่กำลังไต่เส้นทางสแปร์โรว์ฮอว์กเทิร์นบนภูเขาหัวซาน

หุบเขาเกราะเกษตรลาวจวิน (Lao Jun Li Gou)

เดิมชื่อ “หลาวจวินหลีโก่ว” หมายถึง “ละทิ้งความสกปรกเพื่อเข้าสู่แดนสวรรค์” เป็น “ด่านอันตรายลำดับที่สาม” ของหัวซาน เส้นทางนี้เป็นร่องเขาลึกและชัน มีบันไดหินกว่า 570 ขั้น ตำนานเล่าว่าปรมาจารย์ลัทธิเต๋าอย่างเล่าจื๊อ (หลี่เอ่อ) เคยใช้ไถเปิดเส้นทางที่นี่ จึงเป็นที่มาของชื่อ “หลาวจวินหลีกู้” ทุกวันนี้รอบๆ เส้นทางยังมีจารึกหินและถ้ำหลงเหลืออยู่ ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมเต๋า

เส้นทางเหลาดจุนโพลว์ดิจที่ชันพร้อมบันไดหินบนภูเขาหัวซาน

หน้าผาพันฟุต (Qian Chi Chuang)

ตั้งอยู่เหนือก้อนหิน “หุยซินสือ” เป็นรอยแยกบนหน้าผาชัน ประกอบด้วยบันไดหินกว่า 370 ขั้น ความกว้างพอให้คนเดินสวนกันได้แค่สองคน ความชันของบันไดถึง 70° สองข้างแขวนโซ่เหล็ก นักท่องเที่ยวต้องใช้แรงแขนเกาะโซ่ปีนขึ้นไปทีละขั้น ที่ปลายทางมีถ้ำหินชื่อว่า “เทียนจิ่ง” เนื่องจากภูมิประเทศพิเศษ ทำให้ที่นี่ได้รับการขนานนามว่า “คอคอดไท่หัว” และเป็นหนึ่งในด่านอันตรายที่สุดของหัวซาน

บันไดพันฟุตพริปิซที่แคบพร้อมโซ่เหล็ก

หุบเขาร้อยฟุต (Bai Chi Xia)

หรือที่เรียกว่า “หน้าผาร้อยจั้ง” เป็นด่านอันตรายลำดับที่สองถัดจากหน้าผาพันฟุต เส้นทางนี้เหมือนภูเขาถูกผ่าด้วยขวาน หินชันเกือบ 90 องศา ทางเดินแคบมาก ยาวเพียง 46 เมตร มีบันไดหิน 91 ขั้น นักท่องเที่ยวต้องจับโซ่เหล็กแน่นเพื่อผ่านไปได้

เส้นทางหุบเขาร้อยฟุตแนวดิ่งพร้อมบันไดหินชัน

วัดซีเยว่ (Xi Yue Miao)

วัดซีเยว่ตั้งอยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหัวซานประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นสถานที่สำคัญที่เหล่าจักรพรรดิใช้บวงสรวงเทพเจ้าหัวซาน สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 134 ก่อนคริสตกาล มีประวัติยาวนานกว่า 2,000 ปี ในสมัยจักรพรรดิเฉียนหลง วัดแห่งนี้ได้รับการบูรณะโดยยึดตามแบบพระราชวังต้องห้าม จนได้รับสมญาว่า “พระราชวังต้องห้ามย่อส่วนแห่งส่านซี”

นี่คือกลุ่มสถาปัตยกรรมแบบพระราชฐานราชวงศ์หมิง–ชิงที่ใหญ่ที่สุดที่ยังคงอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ภายในยังเก็บรักษาประตูจินเฉิง, หอฮ่าวหลิง, ประตูหลิงซิง และอาคารอื่นๆ อีกมากมาย ความยิ่งใหญ่และความประณีตทำให้วัดซีเยว่ได้รับฉายา “วัดอันดับหนึ่งแห่งห้าขุนเขาศักดิ์สิทธิ์” ค่าเข้าชม 15 หยวน

มุมมองด้านหน้าของวัดซีเยว่โบราณใกล้ภูเขาหัวซาน

ด่านกุญแจทอง (Jin Suo Guan)

หรือที่เรียกว่า “ประตูสู่สวรรค์” เป็นซุ้มประตูหินขนาดใหญ่คล้ายหอคอย สร้างอยู่ตรงจุดบรรจบของสามยอดเขา เป็นเส้นทางบังคับไปยังยอดกลาง, ตะวันออก, ใต้ และตะวันตก ทางเดินกว้างเพียง 1 เมตร สองข้างคือหน้าผาลึก ด่านนี้เคยถูกกวีตู้ฝู่บรรยายไว้ในบทกวี 《望岳》 ว่า “เกวียนเข้าสู่หุบเขาไร้ทางกลับ ประตูเดียวเชื่อมสู่สวรรค์” และคำกล่าวที่ว่า “ข้ามด่านกุญแจทอง ก็เหมือนเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง” ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายที่นักผจญภัยห้ามพลาด

ช่องทางกุญแจทองที่รายล้อมด้วยริบบิ้นสีแดงสำหรับอธิษฐานบนภูเขาหัวซาน

สันเขามังกรคราม (Cang Long Ling)

ตั้งอยู่ทางใต้ของแท่นกู้คู่ และเชิงเขาห้าวั่นเฟิง เป็นหนึ่งในเส้นทางอันตรายที่มีชื่อเสียงของหัวซาน สันเขานี้แคบเพียงประมาณ 1 เมตร ยาวกว่าร้อยเมตร ด้านตะวันตกติดหุบลึกชิงเคอผิง ส่วนด้านตะวันออกติดหุบเขาเฟยอวี่ลิ่ง ลักษณะคล้ายมังกรดำพาดกลางอากาศ จึงได้ชื่อว่า “สันเขามังกรคราม”

กวีเอกสมัยถังอย่างหานอวี่เคยทิ้งร่องรอยการขอความช่วยเหลือไว้ที่นี่ เรียกว่า “สถานที่หานถอยจือทิ้งจดหมาย” ต่อมาในสมัยหมิงและชิง รัฐบาลมีการบูรณะและสร้างบันไดหินเพิ่มกว่า 250 ขั้น นอกจากนี้ยังมีตำนานเล่าขานว่าข้าหลวงปี้หยวนในสมัยเฉียนหลงเคยสั่งขุดเจาะเส้นทางสันเขานี้ ทำให้สันเขามังกรครามไม่เพียงท้าทาย แต่ยังเต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

เส้นทางสันเขามังกรฟ้าที่ไต่ขึ้นหน้าผาหินชันบนภูเขาหัวซาน

ยอดเหนือ (Bei Feng)

ยอดเหนือมีความสูง 1,614.7 เมตร เป็นยอดที่ต่ำที่สุดในบรรดาห้ายอดของหัวซาน ได้ชื่อตามตำแหน่งที่อยู่ทางเหนือ ลักษณะคล้ายแท่นเมฆ จึงมีอีกชื่อว่า “ยอดหยุนไถ” รอบยอดเชื่อมกับยอดไป๋หยุนและเหลียงจาง เป็นเส้นทางต่อไปยังยอดตะวันออก, ตะวันตก และใต้ ยอดเหนือประกอบด้วยโขดหินใหญ่และป่าไม้หนาแน่น

จุดท่องเที่ยวสำคัญได้แก่ ศาลาเจินอู่, ถ้ำฉางชุน, เหมันต์ทิพย์, ผาหินเซินถู่ เป็นต้น ที่นี่ยังมีศาลาอนุสรณ์ “การตีหัวซานด้วยปัญญา” เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของกองทัพปลดแอก จึงเป็นยอดที่ผสมผสานทั้งทิวทัศน์ อันยิ่งใหญ่ตระการตา และคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไว้อย่างลงตัว

ยอดเขาเหนือภูเขาหัวซานที่รายล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจีและหมอก

ยอดตะวันตก (Xi Feng)

ยอดตะวันตกมีความสูง 2,082.9 เมตร เป็นหนึ่งในยอดหลักของหัวซาน รูปทรงด้านบนคล้ายกลีบดอกบัว จึงได้ชื่อว่า “ยอดบัว” หรือ “ยอดฝูหลง” บนหน้าผามีจารึกหินอยู่ทั่วไป ทางใต้เชื่อมกับยอดใต้ผ่านสันเขายาวกว่า 300 เมตร กว้างเพียง 1 เมตร เรียกว่า “สันเขามังกรครามน้อย”

ด้านเหนือมียอดซีซื่อโหลว ซึ่งเล่ากันว่าสร้างโดยเทพเจ้าหัวซานเพื่อเป็นที่ตั้งระฆังและกลอง สถานที่สำคัญได้แก่ รอยเท้ายักษ์, ศาลาซุ่ยหยุน, ถ้ำดอกบัว, ผ่าหิน, หน้าผาสละชีวิต เป็นต้น ตำนาน “ผ่าภูเขาช่วยแม่” ก็ทำให้ยอดตะวันตกกลายเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของหัวซาน

ยอดเขาตะวันตกภูเขาหัวซานที่ปกคลุมด้วยป่าและหน้าผาขรุขระ

ยอดใต้ (Nan Feng)

ยอดใต้เป็นยอดที่สูงที่สุดของหัวซาน สูง 2,160.5 เมตร คนโบราณเรียกว่า “ประมุขแห่งหัวซาน” ยอดนี้ประกอบด้วยสองส่วน ด้านตะวันออกเรียกว่ายอดสนและไซเปรส ส่วนด้านตะวันตกเรียกว่ายอดลกเหยียน

ยอดสนและไซเปรสมีต้นไม้หนาทึบและหมอกปกคลุม จุดท่องเที่ยวสำคัญคือ ศาลาไป๋ตี้ (หรือที่เรียกว่า วัดจินเทียน) ซึ่งเป็นที่สักการะเทพไป๋ตี้เส้าเฮ่า ส่วนยอดลกเหยียนได้ชื่อจากฝูงห่านที่มักหยุดพักที่นี่ จุดชมวิวได้แก่ สระหยางเทียน, สระมังกรดำ, ต้นสนต้อนรับแขก เป็นต้น ยอดใต้ขึ้นชื่อเรื่องความชันและทะเลหมอก ที่งดงามตระการตา ซึ่งดึงดูดนักปีนเขาผู้รักความท้าทาย

ยอดเขาใต้ภูเขาหัวซานพร้อมวิวทะเลหมอกที่น่าทึ่ง

ยอดตะวันออก (Dong Feng)

ยอดตะวันออกสูง 2,090.9 เมตร เป็นอีกหนึ่งยอดหลักของหัวซาน ได้ชื่อตามตำแหน่งที่อยู่ทางตะวันออก บนยอดมีแท่นเฝ้ารอพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ดีที่สุด จึงถูกเรียกว่า “ยอดเฉาหยาง”

บนยอดตะวันออกปกคลุมด้วยต้นสนไซเปรสและต้นไม้ใหญ่ จุดเด่นคือ ยอดอวี้หนี่, ยอดสือโหลว, หน้าผาฝ่ามือเทพ เป็นต้น โดยเฉพาะหน้าผาฝ่ามือเทพที่มีรอยหินขนาดใหญ่คล้ายฝ่ามือ เล่ากันว่าเป็นร่องรอยที่เทพเจ้ายู่หลิงผ่าภูเขาเพื่อเปิดทางแม่น้ำเหลือง ทำให้ที่นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “หนึ่งในแปด ทิวทัศน์งดงามที่สุด ของกวนจง”

ยอดเขาตะวันออกภูเขาหัวซานที่มีริบบิ้นสีแดงสดและต้นไม้สวยงาม

ยอดกลาง (Zhong Feng)

ยอดกลางตั้งอยู่ระหว่างยอดตะวันออก, ตะวันตก และใต้ สูง 2,042.5 เมตร เดิมเป็นส่วนหนึ่งของยอดตะวันออก ตำนานเล่าว่าในสมัยชุนชิว ธิดาของฉินมู่กงชื่อ หนงอวี้ ได้บำเพ็ญตนกับเซียวสือที่นี่จนกลายเป็นเซียน จึงทำให้ยอดกลางถูกเรียกว่า “ยอดอวี้หนี่”

บนยอดมีจุดท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับตำนานรักนี้หลายแห่ง เช่น แท่นเป่าขลุ่ย, ศาลาอวี้หนี่, ต้นไม้ไร้ราก เป็นต้น ยอดกลางมีลักษณะภูมิประเทศ ที่ยิ่งใหญ่สง่างาม และทิวทัศน์ที่โดดเด่น จึงทำให้เรื่องเล่าและวัฒนธรรมของหัวซานมีเสน่ห์โรแมนติกยิ่งขึ้น

ยอดเขากลางภูเขาหัวซานที่โดดเด่นด้วยสันเขาแคบและวิวพาโนรามา

คู่มือบัตรเข้าชมภูเขาหัวซาน

บัตรเข้าภูเขาหัวซานแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ บัตรเข้าสถานที่ท่องเที่ยว, บัตรรถรับ-ส่ง และ บัตรเคเบิลคาร์ โดยบัตรรถรับ-ส่งจะมีทั้งขึ้นและลง ส่วนบัตรเคเบิลคาร์ก็จะแบ่งเป็นขาขึ้นและขาลง ซึ่งมีหลายเส้นทางให้เลือกตามความเหมาะสม รายละเอียดดังนี้:

  • เส้นทางขึ้น–ลงยอดตะวันตก: ระดับความยาก 1 ใช้เวลาประมาณ 4–5 ชั่วโมง เป็นเส้นทางที่เบาสบาย เหมาะกับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุหรือเด็ก
  • เส้นทางขึ้นยอดตะวันตก–ลงยอดเหนือ: ระดับความยาก 2 ใช้เวลาประมาณ 5–7 ชั่วโมง เป็นเส้นทางคลาสสิก เหมาะกับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ช่วงขึ้นไม่หนัก แต่ช่วงลงค่อนข้างยาว จึงเป็นเส้นทางยอดนิยมที่สุด
  • เส้นทางขึ้นยอดเหนือ–ลงยอดตะวันตก: ระดับความยาก 3 ใช้เวลาประมาณ 6–8 ชั่วโมง เส้นทางขึ้นยาว ต้องใช้แรงมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่อยากท้าทายตัวเอง
  • เส้นทางเดินเท้า (ปีนกลางคืน): ระดับความยาก 10! เดินขึ้นและลงด้วยเคเบิลคาร์ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง แต่ถ้าเดินทั้งขึ้นและลงจะใช้เวลาประมาณ 15 ชั่วโมง ส่วนใหญ่จะนิยมเดินขึ้นและนั่งเคเบิลคาร์ลง เหมาะกับนักเดินทางที่มั่นใจในสมรรถภาพร่างกาย

ราคาบัตรเข้าชมภูเขาหัวซาน

ช่วงฤดูกาล

  • ฤดูท่องเที่ยว (High Season): 1 มี.ค. – 30 พ.ย.
  • ฤดูโลว์ซีซัน (Low Season): 1 ธ.ค. – สิ้นเดือนก.พ.

ราคาเส้นทาง

  • เส้นทางขึ้น–ลงยอดตะวันตก
    • รวม: บัตรเข้าหัวซาน, รถรับ–ส่งขึ้นและลงยอดตะวันตก, เคเบิลคาร์ขึ้นและลงยอดตะวันตก
    • ราคา:
      • ผู้ใหญ่: ฤดูท่องเที่ยว 520 หยวน / โลว์ซีซัน 420 หยวน
      • เด็ก (สูง 1.2–1.5 ม.): โลว์ซีซัน 210 หยวน (ไม่มีในฤดูท่องเที่ยว)
      • นักเรียน (ระดับปริญญาตรีหรือต่ำกว่า): โลว์ซีซัน 346 หยวน (ไม่มีในฤดูท่องเที่ยว)
      • ผู้สูงอายุ (60–64 ปี): โลว์ซีซัน 372 หยวน (ไม่มีในฤดูท่องเที่ยว)
      • ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป): โลว์ซีซัน 272 หยวน (ไม่มีในฤดูท่องเที่ยว)
      • เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีหรือสูงไม่ถึง 1.2 ม.: ฟรี
    • ทางเข้า: ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหัวซาน
  • เส้นทางขึ้นยอดตะวันตก–ลงยอดเหนือ (นิยมที่สุด)
    • รวม: บัตรเข้าหัวซาน, รถขึ้นยอดตะวันตก, เคเบิลคาร์ขึ้นยอดตะวันตก, เคเบิลคาร์ลงยอดเหนือ, รถออกจากยอดเหนือ
    • ราคา:
      • ผู้ใหญ่: ฤดูท่องเที่ยว 440 หยวน / โลว์ซีซัน 325 หยวน
      • เด็ก: โลว์ซีซัน 165 หยวน (ไม่มีในฤดูท่องเที่ยว)
      • นักเรียน: โลว์ซีซัน 259 หยวน (ไม่มีในฤดูท่องเที่ยว)
      • ผู้สูงอายุ (60–64 ปี): โลว์ซีซัน 292 หยวน (ไม่มีในฤดูท่องเที่ยว)
      • ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป): โลว์ซีซัน 192 หยวน (ไม่มีในฤดูท่องเที่ยว)
      • เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีหรือสูงไม่ถึง 1.2 ม.: ฟรี
    • ทางเข้า: ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหัวซาน
    • ซื้อบัตร: โปรโมชั่น Trip.com
  • เส้นทางขึ้นยอดเหนือ–ลงยอดตะวันตก
    • รวม: บัตรเข้าหัวซาน, รถขึ้นยอดเหนือ, เคเบิลคาร์ขึ้นยอดเหนือ, เคเบิลคาร์ลงยอดตะวันตก, รถออกจากยอดตะวันตก
    • ราคา:
      • ผู้ใหญ่: ฤดูท่องเที่ยว 440 หยวน / โลว์ซีซัน 325 หยวน
      • เด็ก: โลว์ซีซัน 165 หยวน (ไม่มีในฤดูท่องเที่ยว)
      • นักเรียน: โลว์ซีซัน 259 หยวน (ไม่มีในฤดูท่องเที่ยว)
      • ผู้สูงอายุ (60–64 ปี): โลว์ซีซัน 292 หยวน (ไม่มีในฤดูท่องเที่ยว)
      • ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป): โลว์ซีซัน 192 หยวน (ไม่มีในฤดูท่องเที่ยว)
      • เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีหรือสูงไม่ถึง 1.2 ม.: ฟรี
    • ทางเข้า: ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหัวซาน
  • เส้นทางเดินเท้า
    • รวม: บัตรเข้าหัวซาน (เดินเท้า), เคเบิลคาร์ลงยอดตะวันตก, รถออกจากยอดตะวันตก
    • ราคา:
      • ผู้ใหญ่: ฤดูท่องเที่ยว 340 หยวน / โลว์ซีซัน 260 หยวน
      • นักเรียน: ฤดูท่องเที่ยว 246 หยวน / โลว์ซีซัน 198 หยวน
    • ทางเข้า: วัดหยู่เฉวียน -> ประตูหัวซาน

เวลาเปิด–ปิด

  • เวลาเคเบิลคาร์
    • ตรวจบัตรและเข้าเคเบิลคาร์: 07:00–16:00
    • เวลาเดินรถ: 07:00–19:00
  • เส้นทางเดินเท้า: เปิด 24 ชั่วโมง

วิธีซื้อตั๋ว

  • ออนไลน์: ผ่าน WeChat Official Account หรือแพลตฟอร์มท่องเที่ยว เช่น Trip.com (มีโปรโมชั่นพิเศษ)
  • ออฟไลน์:
    • นักท่องเที่ยวทั่วไป (ไม่ใช่สายเดินเท้า): ซื้อได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โดยใช้พาสปอร์ต
    • นักท่องเที่ยวสายเดินเท้า: ซื้อที่วัดหยู่เฉวียน โดยใช้พาสปอร์ต

เส้นทางเดินเขาแนะนำ

  • ขึ้น–ลงยอดตะวันตก: จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว -> เคเบิลคาร์ขึ้นยอดตะวันตก (40 นาที) -> เดินถึงยอดกลาง (1 ชม.) -> เดินไปยอดตะวันออก (40 นาที) -> เดินต่อยอดใต้ (1 ชม.) -> เดินต่อยอดตะวันตก (30 นาที) -> เคเบิลคาร์ลง (20 นาที)
    • ความยาก: 1 (เบาสบาย ใช้เวลา 4–5 ชม.)
    • เหมาะกับ: ครอบครัว ผู้สูงอายุ และผู้ที่ต้องการเที่ยวแบบชิลๆ
  • ขึ้นยอดตะวันตก–ลงยอดเหนือ: จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว -> เคเบิลคาร์ขึ้นยอดตะวันตก (40 นาที) -> เดินไปยอดใต้ (30 นาที) -> เดินต่อยอดตะวันออก (1 ชม.) -> เดินต่อยอดกลาง (40 นาที) -> เดินไปยอดเหนือ (2 ชม.) -> เคเบิลคาร์ลง (8 นาที)
    • ความยาก: 2 (เส้นทางคลาสสิก ใช้เวลา 5–7 ชม.)
    • จุดเด่น: ขึ้นน้อยลงมาก เป็นเส้นทางยอดนิยม
  • ขึ้นยอดเหนือ–ลงยอดตะวันตก: จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว -> เคเบิลคาร์ขึ้นยอดเหนือ (20 นาที) -> เดินไปยอดเหนือ (8 นาที) -> เดินต่อยอดกลาง (2 ชม.) -> เดินต่อยอดตะวันออก (40 นาที) -> เดินต่อยอดใต้ (1 ชม.) -> เดินต่อยอดตะวันตก (1 ชม.) -> เคเบิลคาร์ลง (20 นาที)
    • ความยาก: 3 (ท้าทาย ใช้เวลา 6–8 ชม.)
    • เหมาะกับ: ผู้ที่อยากทดสอบความอึดของร่างกาย
  • เส้นทางเดินเท้า: เริ่มจากวัดหยู่เฉวียน -> เดินขึ้นยอดเหนือ (5 ชม.) -> เดินต่อยอดกลาง (2 ชม.) -> เดินต่อยอดตะวันออก (40 นาที) -> เดินต่อยอดใต้ (1 ชม.) -> เดินต่อยอดตะวันตก (1 ชม.) -> เคเบิลคาร์ลง (20 นาที)
    • ความยาก: 10 (เต็มรูปแบบ ใช้เวลา 10–15 ชม.)
    • เหมาะกับ: นักเดินเขาที่ร่างกายแข็งแรงและอยากท้าทายตัวเอง

เส้นทางปีนกลางคืน

  • เส้นทาง: วัดหยู่เฉวียน (จุดเริ่มต้น) -> ยอดเหนือ -> ยอดกลาง -> ยอดตะวันออก (ชมพระอาทิตย์ขึ้น) -> ยอดใต้ (ผ่านเส้นทางทางเดินแผ่นไม้) -> ยอดตะวันตก (ลงด้วยเคเบิลคาร์)
  • จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ดีที่สุด: ยอดตะวันออก
  • เวลาออกเดินที่เหมาะที่สุด: เริ่มออกจากวัดหยู่เฉวียนระหว่าง 21:00–22:00 น. ของวันก่อนหน้า หากอยากได้จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ดีที่สุด ควรออกเดินก่อนเวลานี้ 1–2 ชั่วโมง
  • สิ่งจำเป็นที่ควรพก:
    • พาวเวอร์แบงก์: แบบพกพา น้ำหนักเบา เพราะมือถือใช้พลังงานมากเวลา ถ่ายรูป
    • ถุงมือ: ซื้อได้ที่สถานีรถไฟหรือร้านสะดวกซื้อด้านล่างภูเขา ใช้ป้องกันมือและกันลื่น
    • ทิชชู่เปียก/กระดาษทิชชู่: ห้องน้ำบนภูเขาบางแห่งไม่มีน้ำ ควรเตรียมไว้ทำความสะอาด
    • อาหาร: เนื้อแห้ง ไส้กรอก ขนม ช็อกโกแลต และอาหารพลังงานสูง น้ำสามารถซื้อบนภูเขาได้ ควรหลีกเลี่ยงการพกมากเกินไปเพื่อลดน้ำหนัก
    • เสื้อผ้า: ด้านบนอากาศเย็น ควรพกเสื้อ ขนเป็ดบาง หรือแจ็กเก็ตกันลม (มีบริการเช่าเสื้อทหารบนภูเขา)
    • แว่นกันแดดและอุปกรณ์กันฝน: สำหรับการ ถ่ายรูป ตอนกลางวัน และเตรียมเสื้อกันฝนเผื่อเจออากาศแปรปรวน
    • กระเป๋าเป้: แบบเบาๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายเหนื่อยล้าเกินไป

เวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่ภูเขาหัวซาน

เวลาพระอาทิตย์ขึ้น

  • ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.–พ.ค.): 05:00–06:00
  • ฤดูร้อน (มิ.ย.–ส.ค.): 04:30–05:20
  • ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.–พ.ย.): 06:15–06:29
  • ฤดูหนาว (ธ.ค.–ก.พ.): 05:30–06:00
พระอาทิตย์ขึ้นอันน่าทึ่งเหนือภูเขาหัวซานพร้อมทะเลหมอกและยอดเขา

เวลาพระอาทิตย์ตก

  • ฤดูร้อน: ประมาณ 18:30
  • ฤดูหนาว: ประมาณ 17:00
พระอาทิตย์ตกสุดอลังการเหนือภูมิทัศน์ภูเขาหัวซาน

จุดชมวิวที่ดีที่สุด

  • พระอาทิตย์ขึ้น: ยอดตะวันออก (แท่นเฉา หยาง ไถ)
  • พระอาทิตย์ตก: ยอดตะวันตก

ข้อควรระวังหลังปีนเขาหัวซาน

  • ถุงมือ: ควรซื้อจากร้านค้าด้านล่างภูเขา ใช้จับโซ่เหล็กระหว่างปีนเขา ป้องกันลื่นและสิ่งสกปรก
  • ไม้เท้าเดินป่า: เลือกพกได้ โดยเฉพาะช่วงลงจากยอดเหนือจะช่วยได้มาก แต่ช่วงอื่นแทบไม่จำเป็น
  • อุปกรณ์กันลื่น: ในเดือนมีนาคมยังมีหิมะ ละลาย ทำให้ลื่นง่าย สามารถซื้ออุปกรณ์กันลื่นได้ที่เชิงเขา
  • อาหารและน้ำ: ไม่จำเป็นต้องพกมาก เพียงเครื่องดื่มเกลือแร่ 2 ขวด และอาหารพลังงานสูง เช่น ไส้กรอก ช็อกโกแลต ก็เพียงพอ น้ำสามารถซื้อได้บนภูเขา
  • พาวเวอร์แบงก์: สิ่งจำเป็น เนื่องจากการ ถ่ายรูป ใช้แบตเตอรี่สูง ควรมีสำรองเผื่อฉุกเฉิน
  • เครื่องเล่นเสียงนำเที่ยว: ไม่จำเป็นต้องซื้อ เพราะระหว่างปีนส่วนใหญ่คุณจะถ่ายรูปหรือพักเหนื่อย แทบไม่มีเวลาใช้
  • เสื้อผ้า: หากไม่ใช่การปีนกลางคืน สามารถใส่เสื้อผ้าเหมือนอยู่ในซีอานได้ ไม่ควรใส่มากเกินไปเพราะจะทำให้เหงื่อออกและอึดอัด
  • ห้องน้ำ: ห้องน้ำบนภูเขามีสภาพไม่ค่อยดี แนะนำให้ใช้ห้องน้ำก่อนขึ้นเคเบิลคาร์
  • การยืดกล้ามเนื้อ: หลังลงเขา ก่อนขึ้นรถ ควรทำการยืดเหยียดเพื่อลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการไปหัวซาน

ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.–พ.ค.)

ภูเขาหัวซานในฤดูใบไม้ผลิเต็มไปด้วยชีวิตชีวา อากาศสดชื่น เหมาะสำหรับการเดินเล่นชมดอกไม้บาน อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 3.7℃–19.5℃ แม้ฝนจะตกบ่อย แต่หมอกไม่หนา ทำให้ดอกท้อเบ่งบาน และทุ่งหญ้าเขียวขจีเหมือนสวรรค์บนดิน หากขึ้นไปยังยอดตะวันออก (ยอดเฉา หยาง) ตอนเช้า คุณจะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ งดงามและยิ่งใหญ่

ฤดูร้อน (มิ.ย.–ส.ค.)

แม้อากาศจะร้อน แต่ด้วยความสูงของภูเขา อากาศด้านบนยังคงเย็นสบายและสดชื่น ฝนตกบ่อยแต่เป็นเพียงฝนสั้นๆ และมักจะกลับมา ท้องฟ้าแจ่มใส อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถมองเห็นวิวได้กว้างและชัดเจน เหมาะสำหรับการชมน้ำตกที่ ยิ่งใหญ่และงดงาม และทะเลหมอกอันกว้างใหญ่ ตอนกลางคืน นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับการชมดวงดาวและหิ่งห้อยที่สวยงามได้ แม้จะเป็นฤดูท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่หากออกเดินทางในช่วงเช้าตรู่หรือช่วงเย็น ก็สามารถหลีกเลี่ยง ฝูงชน และสัมผัสบรรยากาศที่สงบเงียบได้

ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.–พ.ย.)

ภูเขาหัวซานในฤดูใบไม้ร่วงอากาศเย็นสบาย ฟ้าโปร่ง เหมาะที่สุดสำหรับการปีนเขาและชมวิว ป่าไม้บนภูเขาถูกแต่งแต้มด้วยใบไม้สีเหลืองและแดง กลายเป็นทิวทัศน์ ป่าไม้หลากสีสัน สถานที่แนะนำในการชมใบไม้เปลี่ยนสี ได้แก่ หน้าผาพันฟุต, หุบเขาร้อยฟุต, ยอดเหนือ, สันเขามังกรฟ้า, ยอดตะวันตก และยอดใต้ ฤดูนี้ถือเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น แต่หากเลือกช่วงเช้าตรู่หรือนอกเวลา ยอดนิยม ก็ยังหามุมสงบได้

ฤดูใบไม้ร่วงบนภูเขาหัวซานพร้อมใบไม้แดงและส้มสดใส

ฤดูหนาว (ธ.ค.–ก.พ.)

ในฤดูหนาว หัวซานปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน กลายเป็นโลก น้ำแข็งและหิมะอันงดงาม แม้อากาศหนาว แต่มีนักท่องเที่ยวน้อย จึงสามารถสัมผัสประสบการณ์ปีนเขาที่เงียบสงบได้ หลังหิมะตก ยอดเขา หินเก่าแก่ และวัดเต๋าบนภูเขาถูกคลุมด้วยหิมะ ทำให้ดู ขรึมขลังและสง่างาม โดยเฉพาะยอดเหนือ (ยอดหยุนไถ) ที่มีสนหิมะขาวสวยงาม เมื่อต้องแสงแดดจะดูเหมือน โลกเทพนิยาย

ภูเขาหัวซานปกคลุมด้วยหิมะสร้างบรรยากาศฤดูหนาวอันเงียบสงบ

การเดินทางจากซีอานไปหัวซาน

เครื่องบิน

หัวซานไม่มีสนามบินโดยตรง นักท่องเที่ยวสามารถต่อจากสนามบินซีอานเซียนหยาง:

  • หลังลงที่สนามบิน นั่ง Airport Express ไปยังสถานีซีอานเหนือ (ประมาณ 50 นาที)
  • จากสถานีซีอานเหนือ ต่อรถไฟความเร็วสูงไปยังสถานีหัวซานเหนือ (ประมาณ 30 นาที)
  • ถึงแล้วสามารถนั่งรถรับ–ส่งของ เขตท่องเที่ยว หรือแท็กซี่ไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหัวซาน
  • เหมาะกับ: นักท่องเที่ยวที่บินมาจากต่างเมืองและมีเวลาเพียงพอในการเดินทาง

รถบัสท่องเที่ยวตรง

ซีอานมีรถบัสตรงไปยังหัวซานหลายสาย:

  • จุดขึ้นรถ: สถานีรถไฟซีอาน, หอนาฬิกา, ศูนย์ท่องเที่ยวหลักในเมือง
  • เวลาเดินทาง: ประมาณ 2 ชม. ลงที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหัวซานโดยตรง
  • ราคา: ประมาณ 30–50 หยวนต่อคน (ขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้น)
  • ข้อดี: เดินทางสะดวก ไม่ต้องต่อรถหลายครั้ง
  • เหมาะกับ: นักท่องเที่ยวที่อยากประหยัดเวลาและไม่ต้องวางแผนเส้นทางเอง

รถไฟฟ้าใต้ดิน + รถไฟความเร็วสูง

  • รถไฟฟ้าใต้ดิน: นั่งสาย 4 จากตัวเมืองไปสถานีซีอานเหนือ (ประมาณ 30 นาที)
  • รถไฟความเร็วสูง: จากสถานีซีอานเหนือไปยังสถานีหัวซานเหนือ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที มีรถไฟออกถี่
  • การต่อรถ: ถึงสถานีหัวซานเหนือแล้ว สามารถเลือกใช้รถรับ–ส่ง, แท็กซี่ หรือจักรยาน เช่า ไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
  • เหมาะกับ: นักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และ ตรงเวลา

แท็กซี่หรือรถเรียกผ่านแอป

  • เดินทางตรงจากซีอานไปหัวซานด้วยแท็กซี่หรือรถออนไลน์
  • เวลาเดินทาง: ประมาณ 2 ชม. (ขึ้นอยู่กับการจราจร)
  • ค่าใช้จ่าย: 300–500 หยวนต่อเที่ยว สามารถแชร์ค่าโดยสารกับเพื่อนๆ
  • เหมาะกับ: กลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบายและส่วนตัว

ที่พักแนะนำใกล้ภูเขาหัวซาน

ตัวเลือกที่พักเชิงเขาหัวซาน

โรงแรมน้ำพุร้อนหัวซาน (Shaanxi Dajian Nanshan Hot Spring Hotel)

โรงแรมระดับไฮเอนด์ที่ตั้งอยู่เชิงเขาหัวซาน โดดเด่นด้วยบรรยากาศและวิวที่งดงาม

  • ราคา: ประมาณ 600 หยวน/คืน
  • จุดเด่น: ทุกห้องมีระเบียงกว้าง พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ที่มองเห็นวิวที่งดงามของภูเขาหัวซาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก
  • แนะนำการพักผ่อน: ปีนเขาในตอนกลางวัน กลับมาแช่น้ำพุร้อนที่โรงแรมในตอนเย็น เพื่อคลายกล้ามเนื้อและความเหนื่อยล้า
  • ข้อดีเพิ่มเติม: เดินเพียง 5 นาทีถึง “Hua Shan Ice & Snow World” สามารถเพลิดเพลินกับการ เล่นสกี ในฤดูหนาว
  • เหมาะกับ: นักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์หรูหรา เหมาะสำหรับครอบครัวหรือคู่รัก

ตัวเลือกที่พักบนยอดเขาหัวซาน

ที่พักบนยอดเขามีอยู่ตามจุดสำคัญ เช่น ยอดเหนือ ยอดตะวันออก ยอดตะวันตก และสันเขามังกรฟ้า แม้สิ่งอำนวยความสะดวกจะไม่หรูหรา แต่สะดวกมากสำหรับผู้ที่วางแผนชมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า:

  • โรงแรมยอดเหนือ
  • โรงแรมห้ายอดเมฆ (ใกล้สันเขามังกรฟ้า)
  • โรงแรมยอดตะวันออก
  • โรงแรมยอดตะวันตก
  • โรงแรมแคปซูลบนยอดตะวันออก (ราคาย่อมเยา ใช้รูปแบบแคปซูล)

ข้อควรทราบ:

  • ราคา: ส่วนใหญ่เกิน 1,000 หยวน/คืน ช่วง ฤดูท่องเที่ยว ราคาสูงขึ้นมาก
  • สภาพแวดล้อม: สิ่งอำนวยความสะดวกเรียบง่าย เหมาะสำหรับการพักผ่อนชั่วคราวและเติมพลัง
  • คำแนะนำ: หากคุณต้องการความสะดวกสบาย ควรเลือกพักที่เชิงเขา ส่วนการพักบนยอดเหมาะกับผู้ที่อยากตื่นเช้ามาชมพระอาทิตย์ขึ้น

อาหารแนะนำใกล้ภูเขาหัวซาน

อาหารบนภูเขาหัวซาน

แม้ภูเขาหัวซานจะ สูงชันและอันตราย แต่ตามเส้นทางจะมีร้านอาหารและร้านเล็กๆ สำหรับเติมพลัง

  • ราคาอาหาร: ประมาณ 40 หยวน/ชุด รสชาติใช้ได้ เหมาะกับการ เติมพลังงานอย่างรวดเร็ว
  • ราคาเครื่องดื่ม: ยิ่งสูงราคายิ่งแพง น้ำดื่มจากเชิงเขา 10 หยวน/3 ขวด ส่วนบนยอด 12 หยวน/2 ขวด แนะนำให้เตรียมของว่างและเครื่องดื่มไว้ก่อนขึ้น
ชุดอาหารกล่องบนภูเขาหัวซานที่มีข้าว ผัก และเนื้อ

อาหารเชิงเขาหัวซาน

บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและสถานีเคเบิลคาร์ มีร้านอาหารให้เลือกมากมาย:

  • ฟาสต์ฟู้ด: เช่น KFC สะดวกรวดเร็ว เหมาะกับผู้ที่มีเวลาจำกัด
  • อาหารท้องถิ่น: แนะนำให้ลอง “โรกเจียโหม” (แซนด์วิชหมูสไตล์ ส่านซี) และ “เหลียงผี” (เส้นเย็น) ของกินชื่อดัง รสชาติแท้และราคาคุ้มค่า
  • ร้านอาหารอื่นๆ: มีร้านอาหารหลายแห่งที่ให้บริการอาหารร้อนและ ชุดอาหาร เหมาะสำหรับการรับประทานเป็นกลุ่ม

คำถามที่พบบ่อย

ต้องจองบัตรเข้าหรือเคเบิลคาร์ล่วงหน้าหรือไม่?

ไม่จำเป็นต้องจอง แต่ แนะนำให้ซื้อล่วงหน้า เนื่องจากบางครั้งอาจมีการปิด สถานที่ท่องเที่ยว หรือหยุดบริการเคเบิลคาร์เพราะสภาพอากาศ การตรวจสอบล่วงหน้าจะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่คาดคิด

หัวซานเหมาะกับการนำรถเข็นเด็กไปหรือไม่?

ไม่เหมาะ เนื่องจาก:
-เส้นทางเป็นขั้นบันไดที่ ชันและอันตราย รถเข็นไม่สามารถใช้งานได้
-หากพาเด็กเล็ก แนะนำให้ใช้ เป้อุ้มเด็กหรืออุปกรณ์อุ้มเด็ก จะปลอดภัยและสะดวกกว่า
-ถ้าเป็นเด็กเล็ก ควรเลือกเส้นทางง่าย เช่น ขึ้น–ลงยอดตะวันตก

สามารถฝากสัมภาระที่หัวซานได้หรือไม่?

มีจุดบริการฝากกระเป๋าที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหัวซาน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เดินทาง:
ราคา: กระเป๋าเดินทาง 20 หยวน/ชิ้น, เป้สะพาย 10 หยวน/ชิ้น
เวลาเปิดบริการ: ถึง 24:00 น. เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ปีนกลางคืนหรือกลับดึก
ตำแหน่ง: จุดฝากมีป้ายชัดเจน หากหาไม่เจอสามารถสอบถามพนักงานที่ศูนย์บริการได้