สวัสดีครับ ผมคือ Michael Zhang นักเดินทางที่มีความหลงใหลในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก ผมมีประสบการณ์การท่องเที่ยวระหว่างประเทศอย่างกว้างขวาง และอยากนำทุกคนไปค้นพบสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและเสน่ห์ วันนี้ ผมอยากเชิญคุณเดินทางไปสัมผัสหนึ่งในสถาปัตยกรรมโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน คือ พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) ณ กรุงปักกิ่ง เพื่อดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันรุ่มรวยของที่นี่
สารบัญบทความ
ประวัติศาสตร์พระราชวังต้องห้าม
พระราชวังต้องห้าม หรือที่รู้จักกันในชื่อ พิพิธภัณฑ์พระราชวัง (故宫博物院 / Palace Museum) เป็นหนึ่งในกลุ่มอาคารไม้ที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1987
พระราชวังตั้งอยู่ใจกลางกรุงปักกิ่ง สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง และเป็นที่รู้จักทั่วไปว่า “紫禁城” หรือเมืองต้องห้าม ตัวพระราชวังครอบคลุมพื้นที่กว่า 720,000 ตารางเมตร มีพื้นที่อาคารกว่า 150,000 ตารางเมตร และประกอบด้วยพระราชวังย่อยกว่า 70 แห่ง
ตามตำนานกล่าวว่ามีห้องรวม 9,999.5 ห้อง แต่จากการสำรวจโดยผู้เชี่ยวชาญในปี ค.ศ. 1973 พบว่าจำนวนจริงคือ 8,707 ห้อง
การก่อสร้างพระราชวังต้องห้ามเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1406 (สมัยจักรพรรดิหย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิง) โดยยึดต้นแบบจากพระราชวังนานกิง และแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1420 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 14 ปี ที่นี่เป็นที่ประทับของจักรพรรดิ 24 พระองค์ตลอดสองราชวงศ์ คือหมิงและชิง
ในปี ค.ศ. 1925 (ปีที่ 14 แห่งสาธารณรัฐจีน) ได้ก่อตั้ง พิพิธภัณฑ์พระราชวัง อย่างเป็นทางการ และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม
พระราชวังมีความยาวเหนือ–ใต้ 961 เมตร กว้างตะวันออก–ตะวันตก 753 เมตร มีกำแพงสูง 10 เมตร และคูเมืองกว้าง 52 เมตร มีประตูใหญ่ทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่
- ด้านใต้: ประตูอู่เหมิน (Wumen)
- ด้านเหนือ: ประตูเสินอู่เหมิน (Shenwumen)
- ด้านตะวันออก: ประตูตงฮวามิน (Donghuamen)
- ด้านตะวันตก: ประตูซีฮวามิน (Xihuamen)
ที่มุมทั้งสี่ของกำแพงมีหอคอยมุมที่สร้างอย่างวิจิตร สถาปัตยกรรมซับซ้อนจนได้รับการยกย่องว่าเป็น “เก้าคาน สิบแปดเสา เจ็ดสิบสองสัน”
โครงสร้างของพระราชวังแบ่งออกเป็น เขตหน้าวัง (Outer Court) และ เขตในวัง (Inner Court)
- เขตหน้าวัง มี หอไท่เหอ, หอจงเหอ, และ หอเป่าเหอ ซึ่งรวมเรียกว่า “สามหอใหญ่” ใช้สำหรับประกอบพิธีการสำคัญของรัฐ
- เขตในวัง มี พระตำหนักเฉียนชิง, หอเจียวไท่, และ พระตำหนักคุนหนิง หรือ “สามพระตำหนักหลัง” ซึ่งเป็นที่ประทับของจักรพรรดิและจักรพรรดินี ด้านหลังคือ สวนอวี้ฮวา (御花園)

แผนที่พระราชวังต้องห้าม

10 ไฮไลต์ที่ต้องชมในพระราชวังต้องห้าม
- หอไท่เหอ (Taihe Dian)
รู้จักกันว่า “金鑾殿” หรือท้องพระโรงใหญ่ สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1420 เคยใช้จัดพิธีราชาภิเษก งานแต่งจักรพรรดิ พิธีบวงสรวง และงานใหญ่ของราชสำนัก - พระตำหนักเฉียนชิง (Qianqing Gong)
พระตำหนักหลักของเขตในวัง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1420 เคยเป็นที่พำนักของจักรพรรดิหมิง 14 พระองค์ และยังใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีศพจักรพรรดิ - หออู่หยิ่ง (Wuying Dian)
สร้างในสมัยหมิงตอนต้น เคยใช้เป็นสถานที่ว่าราชการและประชุม - สวนหลวง (Yuhuayuan)
ตั้งอยู่ด้านหลังพระตำหนักคุนหนิง มีพื้นที่กว่า 12,000 ตารางเมตร สร้างในปี ค.ศ. 1420 และยังคงสภาพสวนโบราณที่มีไม้สน ไผ่ และอาคารพavilions - ประตูอู่เหมิน (Wumen)
ประตูหลักทางทิศใต้ ใช้สำหรับประกาศพระราชโองการ และเฉพาะจักรพรรดิที่สามารถเดินผ่านได้ - ประตูตงฮวามิน (Donghuamen)
ประตูตะวันออก มีสะพานหินพาดผ่านแม่น้ำจินสุ่ย และเป็นหนึ่งในทางเข้าหลัก - ประตูเสินอู่เหมิน (Shenwumen)
เดิมชื่อ玄武門 (Xuanwu) และเปลี่ยนชื่อเป็น Shenwu ในสมัยราชวงศ์ชิง ปัจจุบันเป็นประตูหลักของนักท่องเที่ยว - พระตำหนักหย่างซิน (Yangxin Dian)
สร้างในสมัยชิง ใช้เป็นที่พำนักและว่าราชการของจักรพรรดิรุ่นหลัง - พระตำหนักคุนหนิง (Kunning Gong)
เคยเป็นที่อยู่ของจักรพรรดินี และยังเป็นสถานที่จัดพิธีแต่งงานของจักรพรรดิ - พิพิธภัณฑ์สมบัติ (Treasure Gallery)
รวบรวมสมบัติหายาก เช่น มรกต ไข่มุก เครื่องประดับทอง และหยกขนาดใหญ่กว่า 5,000 กิโลกรัม
พระราชวังต้องห้ามใน 4 ฤดูกาล
ฤดูใบไม้ผลิ

ดอกไม้เบ่งบาน โดยเฉพาะดอกโบตั๋นในสวนหลวง
ฤดูร้อน

พระราชวังดูยิ่งใหญ่ท่ามกลางแสงแดด แม้อากาศร้อน
ฤดูใบไม้ร่วง

ใบไม้สีทองตัดกับกำแพงแดง เหมาะกับการถ่ายภาพ
ฤดูหนาว

ปกคลุมด้วยหิมะ ให้บรรยากาศสงบและขรึมขลัง
คู่มือท่องเที่ยวพระราชวังต้องห้าม
คู่มือการซื้อตั๋วเข้าชม
เวลาเปิด–ปิด
- ฤดูท่องเที่ยว (1 เม.ย.–31 ต.ค.): 08:30–17:00 (ปิดรับนักท่องเที่ยวเวลา 16:00)
- นอกฤดู (1 พ.ย.–31 มี.ค.): 08:30–16:30 (ปิดรับนักท่องเที่ยวเวลา 15:30)
- ⚠️ ปิดทำการทุกวันจันทร์ (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
ราคาบัตรเข้าชม (บัตรเข้าพระราชวังต้องห้าม ปักกิ่ง)
- ฤดูท่องเที่ยว: บัตรหลัก 60 หยวน/คน, พิพิธภัณฑ์สมบัติ 10 หยวน, พิพิธภัณฑ์นาฬิกา 10 หยวน
- นอกฤดู: บัตรหลัก 40 หยวน/คน, รวมพิพิธภัณฑ์สมบัติ+นาฬิกา 20 หยวน
- บัตรลดราคา: นักศึกษา (อายุ 18 ปีขึ้นไป) 20 หยวน/คน, ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฤดูท่องเที่ยว 30 หยวน, นอกฤดู 20 หยวน
วิธีซื้อตั๋ว
- เว็บไซต์ทางการ และ WeChat Official
- แพลตฟอร์ม: Trip.com (โปรโมชั่น), Klook (ส่วนลด)
- ซื้อที่หน้างาน โดยใช้พาสปอร์ต
⚠️ ตั๋วมักหมดเร็ว แนะนำจองล่วงหน้า
คำแนะนำเกี่ยวกับไกด์นำเที่ยว
สามารถจองบริการไกด์ได้ที่ Guest Service บริเวณทางเข้า หากช่วงเวลานั้นไม่มีไกด์ อาจต้องรอจนกว่าจะมีไกด์ว่าง
- ภาษา: จีน และ อังกฤษ
- จำนวนกลุ่ม: 1–5 คน (หากเกิน ต้องจ่ายเพิ่มคนละ 30 หยวน)
- ราคา:
- ไกด์ภาษาจีน: 280 หยวน / 2 ชั่วโมง
- ไกด์ภาษาอังกฤษ: 500 หยวน / 2 ชั่วโมง
- เกินเวลา ครึ่งชั่วโมง เพิ่ม 150 หยวน

วิธีเดินทาง
- รถไฟฟ้าใต้ดินสาย 1 ลงสถานี Tiananmen East/West ออกทาง B
เส้นทางท่องเที่ยวแนะนำในพระราชวังต้องห้าม
- 1.5–2 ชั่วโมง (เส้นทางแนวแกนกลางแบบด่วน)
เส้นทาง: ประตูอู่เหมิน → ประตูไท่เหอเหมิน → หงอี้เก๋อ → หอไท่เหอ → หอจงเหอ → หอเป่าเหอ → ประตูเฉียนชิงเหมิน → พระตำหนักเฉียนชิง → หอเจียวไท่ → พระตำหนักคุนหนิง → สวนหลวง (御花園) → ประตูเสินอู่เหมิน
👉 เส้นทางนี้ครอบคลุมเขตสำคัญของพระราชวังต้องห้าม เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มีเวลาจำกัดแต่ต้องการชมไฮไลต์หลักทั้งหมด - 3–4 ชั่วโมง (เส้นทางมาตรฐาน)
เส้นทาง: ประตูอู่เหมิน → หออู่หยิ่ง → ประตูไท่เหอเหมิน → หอไท่เหอ → หอจงเหอ → หอเป่าเหอ → พระตำหนักเฉียนชิง → หอเจียวไท่ → พระตำหนักคุนหนิง → สวนหลวง → พระตำหนักตงหลิวกง → หอจ้ายกง → พิพิธภัณฑ์สมบัติ → พระตำหนักหนิงโซ่วกง → ประตูเสินอู่เหมิน
👉 หากมีเวลาเพิ่ม สามารถแวะ พิพิธภัณฑ์นาฬิกา ได้ แต่ถ้าเวลาน้อยสามารถข้ามบางจุด เช่น หอจ้ายกง โดยไม่กระทบภาพรวม - 6–8 ชั่วโมง (เส้นทางเชิงลึก)
เส้นทาง: ประตูอู่เหมิน → หออู่หยิ่ง → หอวัฒนธรรม (文華殿) → ประตูไท่เหอเหมิน → หอไท่เหอ → หอจงเหอ → หอเป่าเหอ → พระตำหนักเฉียนชิง → หอเจียวไท่ → พระตำหนักคุนหนิง → พระตำหนักหย่างซิน → พระตำหนักซีหลิวกง → สวนหลวง → พระตำหนักตงหลิวกง → พิพิธภัณฑ์นาฬิกา → พิพิธภัณฑ์สมบัติ → ประตูเสินอู่เหมิน
👉 เส้นทางนี้เหมาะกับผู้ที่มีเวลามากและต้องการสัมผัสพระราชวังต้องห้ามอย่างละเอียด ครอบคลุมเกือบทุกจุดสำคัญ (ยกเว้นพื้นที่ที่ยังไม่เปิด)
คู่มือสะสมตราประทับ
พระราชวังต้องห้ามมี ตราประทับทั้งหมด 34 จุด ได้แก่:
- ประตูอู่เหมิน: ร้านของที่ระลึก 1 จุด
- หอวัฒนธรรม: 3 จุด
- หออู่หยิ่ง: 3 จุด
- ร้านหนังสือ Bingjiao: 3 จุด
- หออักษรจีน: 4 จุด
- ร้านของที่ระลึกพระตำหนักคุนหนิง: 5 จุด
- สถานีโทรศัพท์พระตำหนักฉู่ซิ่วกง: 3 จุด
- ร้านหนังสือสวนหลวง: 3 จุด
- พิพิธภัณฑ์สมบัติ: 5 จุด
- บริเวณนอกประตูเสินอู่เหมิน: ร้านของที่ระลึกและคาเฟ่หอคอย 4 จุด
👉 นักท่องเที่ยวสามารถนำสมุดเล็กมาเอง หรือซื้อโปสการ์ดหรือสมุดบันทึกจากร้านของที่ระลึกภายในพระราชวังเพื่อสะสมตราประทับ

ร้านอาหารและคาเฟ่ในพระราชวังต้องห้าม
ร้านฟาสต์ฟู้ด พระราชวังต้องห้าม • สาขาประตูต้วนเหมิน
ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของหอเป่าเหอ ใกล้ประตูจิ่งหยุ่นเหมิน และเจี้ยนถิงฝั่งตะวันตก
🍜 เมนู: ข้าวหน้าแบบจีน ก๋วยเตี๋ยว อาหารเรียกน้ำย่อย ติ่มซำ ขนมตะวันตก เหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม

Wanchun Jinfu Afternoon Tea (สาขาพระราชวังต้องห้าม)
ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของพระตำหนักคุนหนิง
🍰 เมนูแนะนำ: เค้ก “Shishi Ruyi” กาแฟ “Wanfu Jin Chun Latte” ขนม “Wu Fu Peng Shou” ของหวานถั่วแดง “Zhuangzhi Lianzi Chidousha” เครื่องดื่ม “Feiyu Hongmei Feizi Yin” และเครื่องดื่มชงชาพิเศษอื่น ๆ

ร้านอาหาร Bingjiao
ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของพระตำหนักซือหนิงกง ภายในมีทั้งร้านหนังสือ คาเฟ่ ร้านอาหาร และลานพักผ่อนกลางแจ้ง
🍴 เมนู: อาหารจีนสไตล์ราชสำนัก ขนมหวานสำหรับน้ำชายามบ่าย และเครื่องดื่มสร้างสรรค์
👉 จุดเด่น: มีจุดสะสมตราประทับฟรีสำหรับนักท่องเที่ยว

รวมลิงก์แนะนำเที่ยวปักกิ่งที่จำเป็น
- คู่มือเที่ยวปักกิ่งฉบับสมบูรณ์ 📖
- แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและแผนเที่ยวปักกิ่ง🏙️
- แนะนำที่พัก 🏨
- คู่มือการเดินทาง ✈️ 🚇 🚄 🚆
- เคล็ดลับและข้อมูลจำเป็นในการท่องเที่ยว 🗺️ 🍜 📱 💸 🌤️ 💊
Comment (0)